เด็กนักเรียนหญิงชาวฝรั่งเศส สารภาพว่าโกหก เป็นเหตุให้ครูถูกฆาตรกรรม

นักเรียนหญิงชาวฝรั่งเศสวัย 13 ปี ได้ออกมายอมรับแล้วว่าได้ โกหก เรื่อง ครู นำภาพการ์ตูนล้อศาสดามาแสดงหน้าชั้นเรียน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้พ่อของเธอ และได้จัดทำแคมเปญโจมตีครูทางโซเชียลมีเดีย จนเกิดเหตุสลดทำให้ ครูซามูแอล ปาตี ถูกฆ่าตัดหัว เป็นข่าวช็อกโลกเมื่อปีที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวโตโจ้นิวส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษว่า เด็กนักเรียนหญิงชาวฝรัั่งเศสวัย 13 ปี 

รายนึง ได้เข้าให้การสารภาพกับตำรวจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เธอใส่ความครูซามูแอล ปาตี เรื่องที่ครูซามูแอล ปาตี ขอให้นักเรียนมุสลิมออกจากชั้นเรียนระหว่างที่ครูแสดงภาพการ์ตูน ซึ่งเป็นภาพล้อเลียนศาสดาของศาสนาอิสลาม ที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารชาร์ลีเอบโด อันนำไปสู่การฆ่าหมู่ที่สำนักพิมพ์ดังกล่าวเมื่อปี 2558 โดยในความเป็นจริงนั้น เธอไม่ได้ไปโรงเรียนในวันดังกล่าว แต่เพื่อนๆคะยั้นคะยอขอให้เป็นตัวแทนนักเรียนในการแสดงความคิดเห็น อีกประการนึงเธอคิดว่า อยากทำให้พ่อภูมิใจในตัวเธอ 

คุณครูซามูแอล ปาตี เป็นครูวิชาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา ครูท่านนี้ถูกชายหนุ่มหัวรุนแรงเชื้อสายเชเชนวัย 18 ปี 

ชื่ออับดุลลัก อันโซรอฟ บุกมาฆ่าตัดหัว ที่เมืองกองฟล็องส์-แซงโตโนรีนใกล้กรุงปารีสเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยหลังจากที่ก่อเหตุ อับดุลลัก อันโซรอฟ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต โดยชายหนุ่มหัวรุนแรงเชื้อสาย

เชเชนรายนี้ ตามมาสังหารครูปาตี หลังจากเห็นข่าวทางออนไลน์ ที่พ่อของเด็กหญิงชาวฝรั่งเศสและครูสอนศาสนาอีกราย เป็นตัวตั้งตัวตี โพสต์วิดีโอลงเฟซบุ๊กที่กล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสีครูปาตีว่า ลบหลู่ศาสดาศาสนาอิสลาม โดยเชื่อตามคำบอกเล่าที่ลูกสาวเล่าให้ฟัง

โดยตัวพ่อของเด็กฆยิงคนดังกล่าวและครูสอนศาสนาอีกรายนั้น ทั้งคู่ถูกกุมขังตัวเอาไว้ระหว่างรอการพิจารณาคดีในข้อหา “สมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรม” ส่วนเด็กหญิงคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหากล่าวหมิ่นประมาท 

หลังจากมายอมรับว่าโกหก

เวอร์จินี เลอ รอย ทนายความของครอบครัวครูปาตี กล่าวเมื่อวันอังคารว่า จากการสอบสวนตั้งแต่แรก ชี้ให้เห็นว่าว่าเธอโกหก คำอธิบายของเธอไม่น่าเชื่อถือและที่ทำให้ตนโกรธมากขึ้น เพราะมันเป็นเรื่องร้ายแรงและนำไปสู่โศกนาฏกรรมมีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้

การฆ่าตัดคอ ครูปาตี สร้างความสะเทือนในไปทั่วฝรั่งเศสและเรื่องเสรีภาพในการพูดได้รับการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะส่งผลเสียร้ายแรงแก่สังคมในบางเรื่อง รวมถึงการหลอมรวมของชาวมุสลิมเข้ากับสังคมฝรั่งเศส บทบาทของโซเชียลมีเดียที่ปลุกความเกลียดชัง 

ขณะนี้รัฐสภาฝรั่งเศสกำลังอภิปรายร่างกฎหมายฉบับหนึ่งที่กำหนดโทษจำคุกในความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางออนไลน์เกี่ยวกับข้าราชการที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อเหล่าข้าราชการ