สาวเล่าประสบการณ์แพ้ยาแก้ปวดแบบรุนแรง วิกฤตถึงขั้นผิวหนังพุพอง ตาบวดจนติดกัน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า เพจ Drama-addict โดยนพ.วิทวัส ศิริประชัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ลูกเพจฝากเตือนภัย เรื่องการแพ้ยารุนแรง
ไม่ระบุชื่อยี่ห้อยานะครับ เพราะอาการแพ้ยารุนแรงแบบนี้สามารถเกิดกับยาได้แทบทุกตัว อยู่ที่ว่าจะโชคร้ายไปมีอาการตอนใช้ยาตัวไหนเข้า
แต่ถ้ามีอาการสงสัยว่าจะแพ้ยา ต้องรีบหาหมอให้ไวเลย
เพราะถ้าแพ้ยารุนแรงอาจถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้
โดยเจ้าของเรื่องราวได้ เปิดเผยกับทางเพจ Drama-addict ระบุว่า
อยากให้ช่วยแชร์ เรื่องระมัดระวังการใช้ยาด้วยนะคะ แพ้ยาแก้ปวดรุนแรงค่ะ Stevens Johnson Syndrome ค่ะ
ทานยากลุ่มแก้ปวดมา ไม่เคยแพ้เลยค่ะ แต่พอมาทานยาตัวนี้คือแพ้รุนแรงเลยค่ะ
รักษาอยู่ห้อง ICU 36วัน ทางคุณหมอไม่ให้ออกไปพักฟื้นข้างนอก เพราะกลัวแผลจะติดเชื้อค่ะ อยู่ตั้งแต่วันแรกจนออกจากโรงพยาบาลค่ะ
ยาตัวนี้หนูทานแล้วนอนค่ะ ตื่นมา ปากบวม หน้าเป็นตุ่มแดง ช่วงปากลอกเหมือนแผลร้อนใน มีไข้สูง ยังไม่ได้ไปโรงพยาบาลนะคะ คิดว่าเป็นอีสุกอีใส พอช่วง1-2ทุ่ม ถึงได้ไปโรงพยาบาลค่ะ คิดว่าน่าจะแพ้ยา
ปัจจุบันหนูออกจากโรงพยาบาลได้3เดือนแล้วค่ะ
ตอนนี้ผลที่ตามมาคือทางด้านตาค่ะ เนื่องจากตาบวมเปลือกตาติดกัน ทำให้เปลือกตามีปัญหาด้วยค่ะ ตอนนี้ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมทุก2ชั่วโมงค่ะ มีอาการตาแห้งน้ำตาไหลค่ะ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เจ้าของโพสต์เคยเล่ารายละเอียดถึงตอนรักษาตัวไว้ว่า…
steven johnson syndrome/ toxic epidermal necrolysis(พึ่งดูจากใบรับรองแพทย์มา)
แพ้ยา ไม่ใช่เรื่องตลก…
บางคนโชคดีไม่แพ้ แต่เราไม่ใช่.. วันที่ 26 กันยายน 2567 ได้เข้าโรงพยาบาลเลือกรักษาที่ศูนย์การแพทย์แม่ฟ้าหลวง เพราะว่าพึ่งรู้ว่าตัวเองแพ้ยาขั้นรุนแรง ไข้ปาไปถึง40องศา เข้าห้องICU พี่พยาบาลพากันเช็ดตัว ไข้ไม่ลด ต้องพากันทำซ้ำอีกรอบแบบน้ำชุ่มตัว
อิฉันตอนมีสติก็สั่นไปเลยสิคะ ห้องแอร์อีก จะเล่าเท่าที่จำได้อะนะ อีกวันรอดูอาการก็เริ่มแย่ คุณหมอสั่งยาจาก กทม สั่งเช้าตอนบ่ายๆมาถึงก็ฉีดเลย2เข็ม ตุ่มผื่นเลยหยุดลาม
อีกช่วง1อาทิตย์ให้หลังนี่แหละช่วงวิกฤต ผิวหนังริ่มพุพอง ตาเริ่มบวมจนเริ่มติดกัน คุณหมอตามาช่วยดูแล ตาต้องครอบคอนแทคเลนส์ไว้ตลอดตาเริ่มมัวมองไม่ชัด ต้องหยอดน้ำตาเทียมตลอด มาที่หน้าคือบวมไม่ไหว เนื้อเยื่อในปากเริ่มลอกหลุดออกมา
ใครที่ได้ไปเยี่ยมเห็นช่วงนั้นคือ…สุดๆละ คุณหมอทางด้านสกินเข้ามาดูแลต่อเรื่องผิว ว่าจะทำยังไงต่อไป จากนี้เริ่มจำไม่ค่อยได้ละเพราะยา หมอต้องจ่ายยาหนักเพราะจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ ค่อยๆทำมาเป็นขั้นตอนรักษามาเรื่อยๆ เข้าห้องผ่าตัดนี่2รอบได้ คุณหมอดูแลเต็มที่ ตัดมาที่หมอตา คุณหมอสั่งเนื้อเยื่อหุ้มให้จากเชียงใหม่ แต่ช่วงนั้นน้ำท่วมต้องรอ ได้ผ่าอีกทีวันที่16 ตุลา ได้ตัดไหมวันที่31 วันที่1 พฤศจิกา ก็กลับบ้านเลย
ผมนี่ไม่รอด ผมร่วงมาก สุดแล้วต้องโกนรอขึ้นพร้อมกันทีเดียว ตอนนี้กลับบ้านแล้ว ผิวคิ้วขนตาผม รอฟื้นฟูไปอีกเป็นปี แต่แผลนี้คุณหมอบอกว่าไม่เป็นรอยแผลเป็น ไม่ต้องเป็นห่วง รอฟื้นฟูยาวๆ คิดแง่บวกคือ อิฉันได้ผิวใหม่ ปลอบใจตัวเองไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวมันก็กลับมาเหมือนเดิม… อิฉันว่าฉันเก่งละนะทำใจยอมรับมันได้…. แต่ว่า…พ่อกับแม่เก่งที่สุดที่ผ่านมาได้เช่นกัน แบบที่สุด ทนเห็นอะไรหลายๆอย่าง
ได้ยินเสียงร้องไห้ แต่เราได้แต่นอนฟัง ตอนนี้ผ่านมาละ จะกลับมาตั้งใจกว่านี้ เป็นลูกที่ดีกว่านี้…เคยคิดลบกับตัวเองแล้วครั้งนึง แต่ครั้งนี้ไม่แล้ว….
ใครที่กำลังท้อหรืออะไร คุณไม่ได้ตัวคนเดียวนะ คุณยังมีครอบครัว คนที่รักคุณ เพื่อน ญาติพี่น้อง เขาอยู่ข้างคุณเสมอนะ..
เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS