Connect with us

News

อ.เจษฎา ยืนยัน! ติดเชื้อไวรัส HPV ผ่านการนั่งชักโครก แทบเป็นไปไม่ได้เลย

Published

on

อ.เจษฎา ชี้ การเข้าห้องน้ำสาธารณะ ไม่ได้เสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก จากเชื้อไวรัส HPV

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“เข้าห้องน้ำสาธารณะ ไม่ได้เสึ่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก จากเชื้อไวรัส HPV (และเพจหมอคนนี้ ก็เป็นเพจปลอมด้วย)

มีแฟนเพจส่งแชตมาถามว่า อาจารย์เคยเขียนเกี่ยวกับข่าวนี้ไปหรือยังคะ ที่มีสูตินรีแพทย์ออกมาเตือนเรื่อง “การติดเชื้อ HPV จากการใช้ห้องน้ำสาธารณะ นำไปสู่มะเร็งปากมดลูก” … หนูว่ามันแปลกๆ ค่ะ มีเครดิต คุณหมอศิริพร ไชยเดช .. แต่หนูเข้าไปดูแล้ว เหมือนเพจปลอม สร้างมาขายอาหารเสริม แถมเหมือนมีหน้าม้า มาเม้นต์ด้วยค่ะ !?

ใช่เลยครับ .. ลองตรวจสอบแล้ว มีความมั่วทั้งเรื่องเนื้อหาเกี่ยวกับ “เชื้อไวรัส HPV จากห้องน้ำสาธารณะ ทำให้เป็นมะเร็ง” และ ตัวเพจสูตินรีแพทย์ที่อ้างถึงด้วย เพราะเป็นเพจปลอม ซึ่งน่าจะทำมาจากในเวียดนาม เอามาหลอกขายอาหารเสริม

โดยเนื้อหาที่อ้างว่ามาจากเพจ “คุณหมอศิริพร ไชยเดช” ซึ่งอ้างว่าเป็นสูตินรีแพทย์นั้น พูดทำนองว่า มีเคสผู้ป่วยหญิงวัย 35 มาที่คลินิก ด้วยอาการปวดท้องน้อยรุนแรง ตกขาวมีกลิ่นเหม็น สีผิดปกติ และปวดแสบช่องคลอดมาก .. หลังส่งตรวจเพิ่ม พบว่าติดเชื้อ HPV – Human Papilloma Virus ซึ่งเป็นไวรัสอันตราย ที่อาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูก และมักจะใช้ห้องน้ำสาธารณะในที่ทำงานบ่อยๆ โดยไม่ดูแลความสะอาดอย่างถูกวิธี …. ในฐานะแพทย์ ขอให้ผู้หญิงทุกคนใส่ใจสุขอนามัยส่วนตัว นอกจากการฉีดวัคซีน HPV แล้ว การเลือกใช้ “ผลิตภัณฑ์เสริม” ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ก็สำคัญมากเช่นกัน (..หลังจากนั้น ก็เป็นเนื้อหาโฆษณาอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง”

ซึ่งจุดจับผิดสำคัญมากๆ อย่างแรกคือ แพทย์และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ จะมาโพสต์โฆษณายา โฆษณาอาหารเสริมต่างๆ ไม่ได้เลยครับ ผิดกฎหมาย ! เจอที่ไหน ให้ตั้งข้อสังเกตไว้เลยว่า ตัวปลอมหรือเปล่า

และก็เป็นตัวปลอมจริงๆ ด้วย เพราะพอเอาชื่อ “ศิริพร ไชยเดช” ไปตรวจสอบกับบัญชีแพทย์ ของแพทยสภาพ (ที่ https://tmc.or.th/ ) ก็ไม่ปรากฏชื่อดังกล่าว (กรณีนี้ อาจต้องดูว่า มีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล หลังจากขึ้นบัญชีกับแพทยสภาไปแล้ว ด้วยหรือไม่นะครับ)

เมื่อนำรูปประกอบคุณหมอปลอมนี้ ทั้งรูปฉากหลัง และรูปโปรไฟล์ ไปเช็คหาที่มากับ Google Lens ก็ได้ความว่า ไม่ใช่รูปแพทย์คนไทย แต่รูปฉากหลังนั้นเป็นของแพทย์ชาวเวียดนาม (https://vietnamnet.vn/chuyen-gia-noi-tiet-canh-bao-nguy…) และรูปโปรไฟล์เป็นของแพทย์ชาวฟิลิปปินส์ (https://www.facebook.com/…/Dr-Maria-Santos…/… )

รวมไปถึงเมื่อกดเข้าไปดูข้อมูลเชิงลึกของเพจ “คุณหมอศิริพร ไชยเดช” นี้ พบว่า แม้ใน About จะระบุสถานที่ติดต่อ ว่าเป็นเขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ .. แต่ใน page transparency กลับบอกว่า แอดมินเพจนั้น มี 7 คน และอยู่ใน เวียดนาม

สุดท้ายคือเนื้อหาที่พูดเกี่ยวกับ “เชื้อไวรัส HPV กับห้องน้ำสาธารณะ” ซึ่งก็คงไปเอาบางส่วนที่มาจากข้อมูลทางการแพทย์จริง เรื่องที่เชื้อไวรัสนี้ก่อโรคอะไรได้บ้างนั้น .. แต่การอ้างว่าจะติดเชื้อจากห้องน้ำ จนนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็ง นั้น ไม่เป็นความจริงครับ ! เป็นการสร้างความหวาดกลัว เพื่อหลอกขายอาหารเสริมเท่านั้น

จริงๆ แล้ว พญ. เนตร บุญคุ้ม สูตินรีแพทย์ ศูนย์สุขภาพหญิง โรงพยาบาลพญาไท 3 ได้เคยอธิบายเรื่อง “เข้าห้องน้ำสาธารณะ เสี่ยงมะเร็งปากมดลูกจริงหรือ?” นี้ เอาไว้แล้ว (ดูลิงค์ด้านล่าง) ว่า

“หลายคนเชื่อว่า การเข้าห้องน้ำสาธารณะ อาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก!! เนื่องจากเรามีโอกาสที่จะติดเชื้อเอชพีวี ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้จากห้องน้ำสาธารณะ

เชื้อเอชพีวี สามารถพบได้อยู่ทั่วไป ดังนั้นการเข้าห้องน้ำสาธารณะ ก็อาจพบเชื้อเอชพีวีอยู่ด้วย เช่น กลอนประตู ก็อกน้ำ ปุ่มกดชักโครก

แต่อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อเอชพีวีนั้น ต้องมีการสัมผัส เสียดสี หรือการมีเพศสัมพันธ์

การที่เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายของเรา ผ่านการนั่งบนชักโครกนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเชื้อไวรัสไม่สามารถเข้าลึกถึงช่องคลอดได้
เพียงแต่อันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เสี่ยงเป็นหูด หรือโรคผิวหนังอื่นๆ

จึงไม่อยากให้ทุกคนกังวลว่าถ้าเข้าห้องน้ำสาธารณะแล้วจะติดเชื้อไวรัสเอชพีวี

ทั้งนี้การป้องกันเมื่อต้องใช้ห้องน้ำสาธารณะ สามารถทำได้ด้วยการล้างมือให้สะอาด ก่อนและหลังการเข้าห้องน้ำทุกครั้ง เพื่อลดปริมาณเชื้อโรคที่อาจจะติดมือมาแบบไม่รู้ตัว

แม้ว่ามะเร็งปากมดลูก จะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้หญิงไทย แต่การป้องกันไม่ให้เป็นเนื้อร้ายชนิดนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเราต่างก็ทราบกันดีว่า สาเหตุของเนื้อร้ายชนิดนี้ เกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์

ส่วนการป้องกันมะเร็งปากมดลูก โดยหลักการแล้ว คือการตรวจคัดกรองเพื่อตรวจหาความผิดปกติที่ปากมดลูก หรือตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี สาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก เพื่อให้การรักษาก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือฉีดวัคซีนป้องกันร่วมด้วย”

(ข้อมูลจาก https://www.phyathai.com/…/2766%E0%B9%80%E0%B8%82%E0… )

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWSเ

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: