Connect with us

News

รังสิมันต์ โรม สับเละ! รัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐไทยรู้ดี ช่องทางธรรมชาติ ปมแก๊งคอลฯ ค้ามนุษย์ผ่านเมืองไทย

Published

on

รังสิมันต์ โรม จี้รัฐบาล ออกมาตรการหยุดการค้ามนุษย์ผ่านเมืองไทย ที่สำคัญต้องกวดขันเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนรู้เห็น

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ โดยระบุว่า

[ รัฐบาลต้องมีมาตรการหยุดการค้ามนุษย์ผ่านเมืองไทย ]

จากกรณีดาราจีนถูกล่อลวงมาเป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านของไทย เป็นกรณีการถูกหลอกมาทำงานในประเทศไทยแต่กลับถูกส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อันที่จริงแล้วขบวนการเหล่านี้มีทั้งในรูปแบบการหลอกมาทำงาน ทั้งแฝงตัวเป็นไกด์เพื่อหลอกว่าจะพาเที่ยวในไทย แต่ที่สำคัญคือ ขบวนการเหล่านี้ใช้ชื่อประเทศไทยในการบังหน้ารวมถึงใช้ไทยเป็นทางผ่านในการหลอกลวงคนเข้ามาทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกลวงคนทั่วโลก รวมถึงหลอกลวงคนไทยด้วย และจะทำให้คนทั่วโลกรู้สึกว่าประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย

ผมได้อภิปรายเรื่องนี้หลายต่อครั้งต่อสภา โดยให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่ผมได้จากการทำงานในฐานะประธานกรรมธิการความมั่นคงฯ แต่ก็ยังไม่ได้มีมาตรการหรือการปราบปรามอย่างจริงจังจากรัฐบาล จนถึงวันนี้ ผมเน้นย้ำว่า รัฐบาลไม่อาจเพิกเฉยเรื่องนี้ได้อีกต่อไป เพราะทั้งหมดนี้ ทำให้ไทยไม่ต่างจากนายหน้าในขบวนการค้ามนุษย์ที่กำลังใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ

รัฐบาลควรมีมาตรการเชิงรุกในการปราบปรามแก็งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง ใช้กระบวนการจิตวิทยาส่งสัญญาณว่าเราไม่พอใจและกดดันว่าเรากำลังเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ คำนึงถึงเครื่องมือที่มีความเป็นไปได้ทั้งหมดทั้งจากด้านการทูตและด้านความมั่นคง โดยผมเล็งเห็นว่าทุกภาคส่วนควรร่วมมือกันดำเนินการอย่างเร่งด่วน ดังต่อไปนี้

1.การกวดขันเจ้าหน้าที่รัฐ และเอาผิดกับผู้ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เพราะการข้ามไปมาระหว่างไทยเมียนมานั้น เจ้าหน้าที่รัฐไทยรู้ดีว่ามีช่องทางธรรมชาติใดบ้างที่ข้ามไปได้ รวมถึงจุดผ่านแดนตามท่าเรือต่างๆ ในจังหวัดตากที่มีมากเกิดความจำเป็น ควรสำรวจและทบทวนว่าจุดใดบ้างที่เป็นการใช้ประโยชน์จากชาวบ้านที่แท้จริง ถ้าเราควบคุมการเข้าออกชายแดนได้ ก็จะสามารถช่วยควบคุมได้ระดับหนึ่ง โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยป้องกันชายแดนก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

2.การตัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่ส่งไปยังพื้นที่ใช้เป็นแหล่งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า สัญญาณอินเตอร์เน็ตที่มีความผิดปกติ โดยที่ผ่านมาผมได้เสนอข้อมูลรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ถึงความผิดปกติของคู่สัญญาของการไฟฟ้าที่มีลักษณะนอมินี รวมไปถึงคู่สัญญาที่มีการใช้บัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดชำระค่าไฟ โดยความผิดปกติที่ชัดเจนเช่นนี้ก็ยังไม่มีการระงับการใช้ไฟฟ้า รวมถึงก็ยังไม่มีการรื้อถอนเสาส่งสัญญาณจากไทย ยังรวมไปถึงการส่งสิ่งก่อสร้างไปยังแหล่งคอลเซ็นเตอร์แหล่งใหญ่ ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่มีการหาข้อเท็จจริงหรือดำเนินการใดๆ

3.การทบทวนฟรีวีซ่าจากจีน เพราะมีข้อมูลเชิงประจักษ์ในพื้นที่ว่ากลุ่มจีนเทาส่วนใหญ่ ใช้แม่สอดเป็นทางผ่านข้ามไปเมียวดี และมีพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ ในการข้ามไป ดังนั้น ควรมีมาตรการวีซ่าที่กำหนดเงื่อนไขในบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคง แต่หากจะใช้ฟรีวีซ่าแบบเดิมก็ควรมีการรายงานตัวเพื่อทราบวัตถุประสงค์ในการข้ามไปเพื่อเป็นฐานข้อมูลในระบบ พูดง่ายๆ ว่า ควรสร้างความยากมากขึ้นในการใช้พื้นที่เป็นทางผ่าน โดยอาจส่งผลกระทบในระยะแรก แต่หากดูความคุ้มค่าในการป้องกันภัยคุกคามใหญ่ที่เกิดขึ้นก็เป็นผลดีมากกว่า และหากอนาคตมีการจัดการที่ดีแล้วก็อาจผ่อนคลายมาตรการได้

4.การรับผิดของธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการโทรคมนาคม ซึ่งผมมองว่า เอกชนผู้ให้บริการต้องทราบถึงความผิดปกติในการใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตจำนวนมหาศาลไปแหล่งอาชญากรรม เครือข่ายควรรู้ว่าคุณขายให้ใคร รวมถึงการเปิดใช้ซิมม้าเป็นร้อยซิม การเปิดบัญชีม้ารวมถึงกาาทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ควรจัดการกับเจ้าหน้าที่และบุคคลที่สมรู้ร่วมคิดให้เกิดความเสียหายดังกล่าว ทั้งหมดนี้นำไปสู่การก่อให้เกิดอภิมหาขบวนการสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนเป็นระบบ

ผมยืนยันข้อมูลมาโดยตลอดว่า แก็งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ตามชายแดนไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกอย่างล้วนส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ถึงแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นกับคนต่างชาติ เกิดขึ้นฝั่งตรงข้ามในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงการหลอกลวงมาทำงาน แต่ความโหดร้ายรุกลามไปถึงการซ้อมทรมาน การค้าประเวณี การขายอวัยวะ ล้วนแล้วแต่เป็นการค้ามนุษย์อันโหดเหี้ยมที่ใช้ชื่อประเทศไทยล่อลวงเข้ามา และผมได้รับข้อร้องเรียนจากทูตหลายๆประเทศผ่านประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ และเราต้องไม่ลืมว่า ยังมีเหยื่ออีกหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเคนย่า ศรีลังกา บังคลาเทศ แอฟริกา แม้กระทั่งคนไทยเองที่ยังรอความช่วยเหลือ

ที่ผ่านมา ผมเห็นการขับเคลื่อนด้วยคำพูดมาเกือบปี แต่วันนี้ผมขอเห็นการลงมือทำอย่างเอาจริงเอาจัง และผมหวังจะเห็นเจตจำนงทางการเมืองของรัฐบาลที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมถึงไม่ยอมให้ขบวนการเหล่านี้ใช้ไทยเป็นทางผ่านอีกต่อไป

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: