หมอเตือน ระวังข้อเข่าเสื่อม แนะรีบพบหมอตั้งแต่เริ่มมีอาการ หากปล่อยให้รุนแรงอาจทำให้ขาโก่งผิดรูป ยิ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ มีโรคแทรกซ้อน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อรอบข้อและการแคบของช่องระหว่างเข่า เนื่องจากการสูญเสียกระดูกอ่อนข้อเข่า ทำให้เกิดอาการปวดเข่า หัวเข่าบวมแดง เข่าตึงยึด มีเสียงในเข่า ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น การเดิน ลุกนั่ง ขึ้นลงบันได หากไม่ได้ทำการรักษาอาจเพิ่มระดับความรุนแรงของโรคและเพิ่มความเสียหายของข้อเข่า บางรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้ขาโก่งผิดรูปได้
และสิ่งที่น่ากังวลเพิ่มขึ้นคือเมื่อเกิดอาการเจ็บปวดมากก็ยิ่งทำให้ต้องลดการเคลื่อนไหว เมื่อลดการเคลื่อนไหวก็ยิ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแออาจทำให้ร่างกายมีภาวะแทรกซ้อนของโรคต่างๆ ตามมาได้เช่นกัน ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมนั้นมีหลายปัจจัย อาทิ พฤติกรรมที่สะสมจากการใช้ข้อเข่าที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่วัยหนุ่มสาว น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น อายุที่มากขึ้นทำให้การซ่อมแซมกระดูกลดลง เป็นต้น โดยโรคดังกล่าวจะพบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ด้าน นพ.ทัศนชาติ จิตรีธาตุ ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต) กล่าวว่า สำหรับระดับอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น เริ่มแรกจะมีอาการเจ็บปวดข้อเล็กน้อย มีอาการตึงของข้อเข่าเมื่อเปลี่ยนท่าทาง หัวเข่ามีเสียงจาการเสียดสีของกระดูก แนะนำให้รีบพบแพทย์ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและเมื่อกระดูกอ่อนเริ่มสึกกร่อนมากขึ้น เกิดเสียงในเข่าเพิ่มขึ้น มีอาการหมอนรองกระดูกเสียหายมากขึ้นและกล้ามเนื้อมีความแข็งแรงลดลง ทำให้เกิดการเจ็บปวดมากขึ้น ถ้าหากปล่อยโดยไม่มีการรักษาจะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของโรค กระดูกเริ่มหลุดร่อน มีรอยแตกมากขึ้น
เกิดกระดูกงอกขนาดใหญ่จำนวนมากในบริเวณข้อเข่า กล้ามเนื้อรอบเข่าอ่อนแรงช่องแคบในเข่าชิดติดกัน จะทำให้มีอาการเจ็บปวดมาก ข้อเข่าผิดรูป ขาโก่งออก เข่าบวมโต ดังนั้น ขอเน้นย้ำว่าควรเข้าพบแพทย์ทันทีที่มีอาการข้อเข่าเสื่อมในระยะเริ่มแรก สำหรับการรักษานั้นมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค มีทั้งการใช้ยารักษาเพื่อควบคุมอาการของโรค การฉีดยารักษา การทำกายภาพบำบัด และการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS