ตำรวจ ยืนยัน เป็นข่าวปลอม ปมแชร์ข่าวพบ อสม. เสียชีวิตเดือนละ 600 ราย จากการเป็นตัวอย่างฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ
กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลสุขภาพในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องพบ อสม. เสียชีวิตเดือนละ 600 ราย จากการเป็นตัวอย่างฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีการโพสต์ชวนเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพในเฟซบุ๊กโดยระบุว่าพบ อสม. เสียชีวิตเดือนละ 600 ราย จากการเป็นตัวอย่างฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าการกล่าวอ้างจากแหล่งข่าวว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และเรื่องการเสียชีวิตของ อสม. ทั่วประเทศ เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่เกิดจากการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น โรคชรา อุบัติเหตุ เป็นต้น
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ สามารถติดตามกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขได้ที่เว็บไซต์ https://hss.moph.go.th/ หรือโทร 02-149-5670
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การกล่าวอ้างจากแหล่งข่าวว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และเรื่องการเสียชีวิตของ อสม.ทั่วประเทศ เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่เกิดจากการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ,โรคชรา อุบัติเหตุ
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่
เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”