รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ลั่น เรื่องน่าเศร้า ชนชั้นนำเสพสุข แต่ชีวิตหมอ และบุคลากรทางการแพทย์ ยังลำบาก ชี้! ถ้าไม่ซื้อเรือดำน้ำ เราจะมีเงินเพิ่มสวัสดิการ-ปริมาณหมอ
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2545 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ผมสอบติดคณะแพทยศาสตร์ ตอนเรียน ม.5 อายุ 17 เป็นรุ่นสุดท้ายของการสอบเทียบ ผมเรียนอยู่ 2 ปี จึงพบว่าไม่ใช่เส้นทางชีวิตของตน เลยมาสอบเข้า(ซิ่ว) มาเรียนรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตอนปี 2547 คิดย้อนไปก็ 21 ปีจากวันที่สอบติดแพทย์ในวันนั้น
ก็คิดชีวิตตัวเองไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเรียนต่อไปตอนนั้น
ภาพวิถีชีวิตนิสิตแพทย์ เลือนไปในความทรงจำ เพื่อนฝูงก็ไม่ได้ติดต่อกัน แต่สิ่งที่ผมจำได้ ผมบอกได้เลยว่าทุกคนในปี 2545 ตัดสินใจเรียนหมอด้วยเจตนาสูงส่งเพื่อชีวิตคนทั้งนั้น เท่าที่เด็กอายุ 17-18 จะคิดได้
วันนี้เรื่องน่าเศร้าที่ผมเห็นประเทศนี้ทรัพยากรล้นเหลือ ผมเห็นชนชั้นนำเสพสุข แต่ชีวิตของ หมอ และบุคลากรทางการแพทย์ ยังลำบากมาก และทำให้เจตนาความฝันที่วางไว้ห่างไกลออกไปเพียงเพราะนโยบายของผู้มีอำนาจ
ปัญหาคือ เพื่อนหมอที่พอจะมีบทบาทที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ก็ถูก “ดูดเข้ายานแม่” และเลือกที่จะเงียบเสียง หมอรุ่นน้องก็ทนไป ทนไม่ได้ก็ออกไป
ผมไม่อยากพูดหลักนโยบายที่ซับซ้อน
เอาแค่ว่า
ถ้าเราไม่ซื้อเรือดำน้ำ เราก็จะมีเงินบรรจุพยาบาล เพิ่มสวัสดิการ และปริมาณหมอ ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ ทุกอย่างจะดีขึ้นอีก 20%
ถ้าลดทหารประจำการ ก็จะเพิ่ม กำลังคนสาธารณสุขได้อีกหลายหมื่นคน
เลิกสนามกอล์ฟ ทหาร ก็จะมีโรงพยาบาล ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ได้อีกหลายที่
ฯลฯ
หมอทุกคนเป็นแรงงาน ควรได้รับการคุ้มครอง และควรมีชีวิตที่ดี สมกับการเป็นหนึ่งในอาชีพที่หล่อเลี้ยงประเทศนี้เช่นกัน
รูปเสื้อกาวน์ที่ใส่ตอนเรียน Gross Anatomy Lab เมื่อตอนปี 46
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS