จับแล้ว!! “บอย วัฒนะชัย” หลอกว่าจะนำรถไปซ่อมให้ ก่อนเชิดทั้งรถและเงินค่าซ่อมหนีหาย

สืบนครบาล รวบ “บอย วัฒนะชัย” มีหมายจับ 7 หมาย พบประวัติคดีฉ้อโกง,ยักยอก กว่า 20 คดี ก่อเหตุทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า จากกรณีมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากได้เดินทางมาร้องเรียนที่สืบนครบาล ให้ช่วยติดตามรถที่ได้นำไปซ่อมกับ “บอย วัฒนะชัย” และได้มอบรถกับเงินค่าซ่อมให้ไป แต่เป็นเวลากว่า 3 ปี รถซ่อมไม่เสร็จ ให้นำมาคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด จึงไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งต่อมาศาลได้ออกหมายจับไว้แล้ว

ผู้การจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ เมื่อได้รับทราบความเดือดร้อนดังกล่าว จึงได้กำชับให้ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. เร่งติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็ว โดยมอบหมายให้ พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ สว.กก.สส.2ฯ นำทีมไล่ล่าจับกุม

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 17.20 น. เจ้าหน้าที่ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว นาย วัฒนะชัย หรือบอย อายุ 45 ปี  จับกุมตามหมายจับหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่จ.1071/2566 ลงวันที่ 25 ต.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”  จับกุมบริเวณ ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถ.พัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุงจ.ชลบุรี

พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้นำรถยนต์ บีเอ็มเบิ้ลยู คั มาซ่อมที่อู่แห่งหนึ่งในซอยแจ้งวัฒนะ 10 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ระหว่างนั้นได้มีผู้แนะนําให้รู้จักกับนายวัฒนะชัย (ผู้ต้องหา) โดยบอกว่านายวัฒนะชัยฯ มีอะไหล่รถยนต์รุ่นที่กําลังซ่อม จึงได้ติดต่อพูดคุย โดยนายวัฒนะชัยฯ แจ้งว่า มีอู่ในเครือสามารถซ่อมได้ ผู้เสียหายจึงนํารถมอบให้กับนายวัฒนะชัยฯ และได้โอนเงินให้นายวัฒนะชัยฯ จำนวน 30,000 บาท ผ่านไปเป็นเวลากว่า 3 ปี รถยนต์คันดังกล่าวก็ยังซ่อมไม่เสร็จ ผู้เสียหายพยายามติดต่อให้นํารถยนต์มาคืนแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง จนกระทั่งติดต่อไม่ได้ในที่สุด จึงเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนจนกระทั่งออกหมายจับในที่สุด

จากการสืบสวนพบว่า นายวัฒนะชัยฯ มีประวัติถูกดำเนินคดีจำนวนหลายรายการ ทั่วประเทศ และมีหมายจับในคดีฉ้อโกงจำนวนหลายหมาย แผนประทุษกรรมมักเป็นการหลอกลวงที่เกี่ยวกับยานพาหนะต่างๆ เช่น การหลอกขายรถไถ รับจ้างจดทะเบียนรถแต่ไม่ดำเนินการให้ และการหลอกลวงขายของทางเฟสบุคแล้วไม่ส่งของ มีพฤติการณ์ย้ายที่พักอาศัยไปตามจังหวัดต่างๆบ่อยครั้ง เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จนกระทั่งต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 5 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ชุดจับจึงได้สืบสวนจนพบว่า นายวัฒนะชัยฯ ได้ทำการเดินทางไปยังห้าง ถ.พัทนากลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 จึงได้วางกำลังบริเวณลานจอดรถ จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ในชั้นจับกุม เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง

ตรวจสอบระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า มีหมายจับในระบบอีก 6 หมายจับ คือ

1.หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ 244/2567 ลงวันที่ 23 พ.ค. 67 (สภ.หางดง ภ.จว.เชียงใหม่ ภ.5) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหายักยอก”

2.หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 32/2567 ลงวันที่ 7 ก.พ. 67 (สน.บางโพงพาง) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

3.หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 56/256 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ฉ้อโกง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ”

4.หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ 202/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. 66 (สภ.ช้างเผือก) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”

5.หมายจับศาลแขวงกระบี่ ที่ 73/2566 ลงวันที่ 30 พ.ค. 66 (สภ.ลำทับ ภ.จว.กระบี่ ภ.8) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
6.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 673/2566 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 66 (สน.มีนบุรี) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก”

จากนั้นได้ตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนภัยประชาชน โปรดใช้ความรอบคอบในการเลือกอู่ซ่อมรถ เนื่องจากปัญหาที่พบเจอได้ทั่วๆ ไปเลยคือการนำรถไปซ่อมในอู่ที่ตนไม่ได้มีความรู้จักหรือไม่คุ้นเคย แล้วถูกสับเปลี่ยนอะไหล่ บางรายถูกนำรถไปใช้ ไปจำนำ หรือนำไปขายต่ออีกทอด แล้วไม่ได้รถคืน ดังนั้น การเลือกอู่ซ่อมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ “รถ” ถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า เวลาจะส่งซ่อม ต้องเลือกอู่ซ่อมรถที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ มีหน้าร้านชัดเจน ดูการรีวิวของลูกค้า ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS