จุลพันธ์ เผย เงินดิจิทัล 10,000 บาท สามารถลงทุนร่วมกัน เช่น รวมกลุ่ม 10 คน ได้เงิน 100,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนสร้างร้าน โรงสี สามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงนโยบายการแจกเงินดิจิทัล (ดิจิทัล วอลเล็ต) คนละ 10,000 บาท สำหรับคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ว่าจะเป็นการแจกตามชื่อที่อยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยี บล็อกเชนดำเนินการ โดยจะมีแอพพลิเคชั่นรองรับ ลักษณะเป็นซุปเบอร์แอพพ์ ซึ่งไม่ได้ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังแต่อย่างใด และขณะนี้ยังไม่มีชื่อแอพพลิเคชั่นดังกล่าว เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการรายละเอียดทั้งหมด
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ราว 5.6 แสนล้านบาทนั้น มาจากหลายส่วน ทั้งเงินงบประมาณ การจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มขึ้น และเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นต้น ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าจะยืมเงินจากรัฐวิสาหกิจ และขายหุ้นกองทุนวายุภักษ์นั้น ยังไม่มีข้อสรุป เพราะต้องพิจารณารายละเอียดอีกหลายๆ ด้าน
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นเงินดิจิทัล 10,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขแจกครั้งเดียวภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อย่างช้าสุดภายในไตรมาสแรกของปี 2567 แต่มีข้อห้ามเพียง 2-3 ข้อ อาทิ ห้ามนำไปซื้อสินค้าอบายมุข ไม่สามารถนำไปชำระหนี้ได้ ไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ โดยประชาชนสามารถนำไปซื้อสินค้าร้านค้าในรัศมี 4 กิโลเมตร (กม.) ตามที่อยู่ทะเบียนบ้าน เนื่องจากต้องการให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน และสร้างเม็ดเงิน 2.2 ล้านล้านบาท สร้างอัตราการเติบโตเศรษฐกิจ 1-2%
“ผมขอยกตัวอย่าง ประชาชนที่ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท นำไปซื้อสินค้าในร้านค้าโชห่วยชุมชนหรือร้านก๋วยเตี๋ยว แม้ร้านค้านี้จะยังไม่เข้าระบบภาษี แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวสามารถรับชำระค่าก๋วยเตี๋ยวได้ และจะต้องนำเงินไปซื้อวัตถุดิบจากร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี สามารถนำเงินดิจิทัลมารับเงินสดได้จากสถาบันการเงินของรัฐที่รัฐบาลกำหนด ด้วยวิธีการนี้จะทำให้รัฐมีเงินหมุนเวียนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) รอบละ 30,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่าจากการแจกเงินดิจิทัลนี้จะมีเงินหมุนเวียน 4 รอบ รวม 120,000 ล้านบาท” นายจุลพันธ์กล่าว
ส่วนกรณีประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือผู้ป่วยติดเตียง คนชรา จะต้องมีขั้นตอนการยืนยันตัวตนที่สถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งต้องมีวิธีการ เพื่อมิให้เกิดการรั่วไหล และเป็นผู้ได้รับสิทธิอย่างแท้จริง ด้วยการรับคิวอาร์โค้ด แล้วนำคิวอาร์โค้ดนั้นมาใช้จ่ายตามร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งเชื่อว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน
“ขอย้ำว่าประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปได้เงินดิจิทัลทุกคน โดยไม่ต้องลงทะเบียน เพราะยึดตามทะเบียนบ้าน และทุกคนได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียม สามารถใช้เงินดิจิทัลจับจ่ายใช้สอยได้ ยกเว้นไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ โดยผู้ที่สามารถนำไปแลกเป็นเงินสดได้ คือร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain สามารถติดตามการใช้จ่ายเงินดิจิทัลนี้ได้ เพื่อป้องกันการรั่วไหล และการแลกเป็นเงินสด” นายจุลพันธ์กล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประชาชนในต่างจังหวัด เฝ้ารอการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะมีแผนการลงทุนร่วมกัน เช่น รวมกลุ่ม 10 คน ได้เงิน 100,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนสร้างโรงสีข้าว เพื่อรับจ้างสีข้าวในชุมชน มีประชาชนบางคน จะนำเงิน 10,000 บาท มาเป็นต้นทุน เปิดร้านขายอาหาร ก็สามารถทำได้ ถือเป็นแนวทางที่ดี เพราะจะก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน เชื่อว่าจะเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
#เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS