ปลอดภัย หายห่วง!! 2 ตัวตึงหนองแขม เจอ สส.ไอซ์ จัดการแล้ว

สส.ไอซ์ รักชนก แจ้งความคืบหน้า จับตัวตึงหนองแขมส่ง รพ.จิตเวชแล้ว ลั่น สะท้อนปัญหาสำคัญ ยาเสพติด

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม.เขต 28 พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ดำเนินการแล้ว ส่งตัวตึงหนองแขมเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชเรียบร้อย ทั้ง2เคส

หลังจากการเลือกตั้งจบใหม่ๆเคสแรกๆที่ ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนคือ เจ้าของฉายา ‘ตัวตึงหนองแขม’ เป็นผู้ป่วยจิตเวชที่เกิดจากการใช้สารเสพติดเป็นระยะเวลานาน สร้างปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่มาไม่น้อยกว่า 10 ปี ทั้งลวนลามนักเรียนหญิงที่ผ่านเส้นทางนั้น ทุบชวดเบียร์เป็นปากฉลามแล้วไล่ทำร้ายร่างกาย จนครูในโรงเรียนไม่เป็นอันจะสอนหนังสือ

ประชาชนที่เดือดร้อนแจ้งที่ตำรวจไปก็หลายสิบเคส แต่อำนาจของพี่ๆตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าแค่ขังแล้วสุดท้ายก็ต้องปล่อย แล้วปัญหาก็กลับมาวนเวียนอยู่กับคนในพื้นที่ ไอซ์เชื่อว่าไม่จบเเน่ สอบถามชาวบ้านพอมีเคสก็จะหายไปสัก 1 – 2 เดือนแล้วก็กลับมาก่อเหตุใหม่ เพราะผู้ป่วยขาดยา กินยาไม่ตรงเวลา ครอบครัวอยู่ในสภาพที่ดูแลไม่ไหว จึงสำนักงานเขตหนองแขม ร่วมเข้าช่วยเหลือ ได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ ฝ่ายพัฒนาชุมชน นักสังคมสงเคราะห์ ในการพา ตัวตึงหนองแขมในเคสแรก เข้ารักษาได้สำเร็จร่วม 6 เดือนแล้ว

ต่อมาได้รับเรื่องว่า ตัวตึงคนน้อง (น้องชายเคสแรก) ก็มีอาการเช่นเดียวกันและทำพฤติกรรมเหมือนกัน แถมคนตัวสูงและแข็งแรง น่ากลัวกว่าคนพี่ มีคดีติดตัวในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ทั้งครอบครัวและคนรอบข้างที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งชาวบ้านต้องการให้จัดการก่อนเปิดเทอมเพื่อความปลอดภัยของเด็ก

ปัญหาเรื้อรัง 3-4 ประการที่ต้องพูดถึง

ไอซ์เชื่อว่าไม่ได้มีแค่ในพื้นที่ไอซ์ ที่เจอปัญหาแบบนี้
1)ปัญหายาเสพติดในชุมชน อันนี้เรื้อรังหนักหนามากจริงๆ และมากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่รัฐบาลประยุทธ์ ราคายาเสพติดถูกลงเรื่อยๆแถมยังหาซื้อได้ง่าย ไม่รู้จริงๆว่าประชชานจะต้องไปร้องกับหน่วยงานไหน ถึงจะจัดการได้อยทางมีประสิทภาพ ถ้าตัวการใหญ่หรือผู้มีอำนาจ มาเกี่ยวข้องซะเอง แล้วตำรวจหรือข้ารชาการชั้นผู้น้อยใครจะกล้าแตะ!!

2)เมื่อเกิดปัญหาผู้ป่วยจิตเวชก่อความรำคาญหรือสุ่มเสี่ยงจะทำร้ายประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอให้เกิดเหตุร้ายก่อน ถึงจะเข้าควบคุมผู้กระทำผิด ทั้งที่ก็เป็นคนเดิมก่อเหตุมาไม่รู้กี่ครั้ง ได้เวลาที่ควรเปลี่ยนระเบียบตรงนี้ใหม่หรือยัง ทำไมต้องรอให้เกิดเหตุร้ายก่อน ทำไมต้องรอให้มีประชาชนบาดเจ็บก่อนทุกครั้ง ทำไมไม่ป้องกันเหตุก่อน ทั้งๆที่รู้เต็มอกว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุร้าย

3)การดูแลผู้ป่วยจิตเวชไม่ง่ายเลย ทั้งกับคนในครอบครัวและคนในสังคม ขั้นตอนระเบียบต่างๆไม่เอื้อให้ผู้ป่วยจิตเวชได้เข้ารับการรักษาง่ายๆเลย กว่าไอซ์และทีมงานจะส่งตัวไปได้แต่ละเคส ใช้เวลาหลายวันหลายขั้นตอน เริ่มจากตำรวจต้องรอให้เกิดเหตุเพื่อให้ตำรวจมีเหตุผลในการควบคุมตัว ต้องตามหาชื่อว่าสิทธิบัตรทองอยู่ที่ไหนไปผิดที่ผิดโรงพยาบาลก็ใช้สิทธิไม่ได้ ไปเข้าคิวรอตรวจเพื่อเอาผล ขอให้แพทย์ทำเรื่องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลจิตเวช ประสานงานส่งตัวผู้ป่วยไปช้ากว่า11โมง โรงพยาบาลก็ไม่รับ ทั้งนี้ครอบครัวและตัวผู้ป่วยต้องยินยอมที่จะรักษา ขาดการยิมยอมจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ มีเคสที่จอมทองตัวผู้ป่วยเองไม่ยอมรับการรักษา ทั้งคนในครอบครัวและคนในชุมชนต่างก็เดือดร้อน สุดท้ายครอบครัวต้องย้ายหนีเพราะชาวบ้านไม่ต้อนรับ การทำงานที่เป็นแบบตั้งรับ ในเคสผู้ป่วยจิตเวชควรเป็นแบบเชิงรุกหรือไม่

4)หลายเคสในหลายๆที่ ผู้ป่วยจิตเวชก่อเหตุซ้ำๆเดิมๆมาเป็นปีๆ แต่ไม่มีใครทำอะไรได้เลย ไอซ์จำได้ว่าตอนเด็กๆเรียนที่โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ ใครเดินผ่านวัดนวลจะต้องเจอพี่คนนึง ยืนแก้ผ้า ยืนชักว่าว หรือมาลวนลามเด็กนักเรียน มีเรื่องนี้ตั้งแต่เข้าโรงเรียนจนเรียนจบ พี่คนนั้นก็ยังอยู่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไม่ทำอะไรกับเคสแบบนี้จริงๆหรอ แล้วการนำเข้าไปที่โรงพยาบาลจิตเวชนั้นเป็นแค่ช่วงสั้นๆ บางเคสยังไม่ดีขึ้นเลยก็ปล่อยตัวออกมาก่อเหตุซ้ำ โรงพยาบาลไม่พอ บุคลากรขาดแคลน สาธารณะสุขทั้งรัฐบาลชุดที่แล้วและชุดนี้ แก้ไขอะไรยังไงไปแล้วบ้าง

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและแก้ที่ต้นตอ ประชาชนต้องปลอดภัยจากผู้ป่วยจิตเวชและตัวผู้ป่วยจิตเวชเองก็ควรที่จะได้รับการรักษาจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ในสมัยประชุมหน้า ไอซ์จะตั้งกระทู้ถามกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไข เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชได้รับการดูแล และไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นที่หนองแขม จอมทอง บางบอน หรือว่าที่ไหนก็ตาม

ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม , เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต เทศกิจ, ประธานชุมชนพี่แมว ที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือจนสามารถส่งตัวทั้งสองเคสเข้า โรงพยาบาลจิตเวชได้สำเร็จ แต่ความคาดหวังคือเมื่อผู้ป่วยกลับมา ไอซ์หวังว่าเราจะหาทางดูแลพวกเขาและประชาชนในชุมชนให้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย และต้อนรับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วกลับเข้าสู่ชุมชนได้อย่างเป็นปกติ

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS