ธันวา เผยเหตุผล หาบเร่แผงลอย เงินหมุนเวียนกว่า 5 แสนล้านบาท แต่ทำไมรัฐบาลไม่เคยจัดการ เหมือนเอื้อประโยชน์นายทุน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายธันวา ไกรฤกษ์ อดีตผู้สมัคร สส.กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
ประชาชนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจไม่ดี แม้กระทั่งร้านอาหาร ที่เราต่างคิดเสมอว่าเศรษฐกิจแย่ยังไงคนก็ต้องกินข้าว ก็ยังยอดขายตกไปกว่าครึ่ง ทยอยปิดกิจการกันเป็นแถวๆ
แต่ทราบไหมครับว่าธุรกิจค้าปลีกเพียงแค่เจ้าเดียว กลับมียอดขายกว่า 1 ล้านล้านบาท กำไรก็ยิ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
หากถามว่าทำไมเศรษฐกิจแย่ รายย่อยตาย แต่รายใหญ่กลับโคตรรวย ก็คงต้องบอกว่าเรามีรัฐบาลโง่ครับ ซึ่งถือว่าให้เกียรติมากๆแล้ว เพราะถ้าให้ด่าตรงเป้ากว่านี้ ก็คือ “รัฐบาลเลว” และ “นักการเมืองชั่ว”
ผมจะไม่บอกหรอกว่ารัฐบาลไหนบ้าง ให้ไปคิดเอาเอง แต่จะฉายภาพตัวอย่างให้เห็นเรื่องนึง ก็คือเรื่อง หาบเร่และสตรีทฟู้ด
หลายท่านคงทราบว่าผมเคยร่วมผลักดันนโยบายแก้ปัญหาหาบเร่แผงลอยในกทม.ร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการและนักวิชาการ พวกเราได้เคยนำเสนอข้อมูลต่อรัฐบาลว่า การค้าขายริมทางนั้นมีเงินหมุนเวียนสูงถึงกว่า 5 แสนล้านบาทในแต่ละปี
เงินจำนวนเหล่านี้ หมุนอยู่ในกระเป๋าคนฐานรากหรือคนรากหญ้าโดยตรง แต่ปัญหาคือกีดขวางทางเดินและการจราจร ซึ่งก็ได้มีการแก้ไขกันไปจนเกือบจะครบทุกจุดแล้ว ที่เหลือเกะกะอยู่จะเป็นพวกที่จ่ายส่วยเทศกิจและมาเฟีย ไม่ใช่กลุ่มที่เป็นสมาชิกชมรมผู้ค้าแต่ประการใด
ไม่ว่าผมจะพาเขาไปพบส.ส.หรือรัฐมนตรีคนไหน เสียงสะท้อนจากภาคประชาชนก็เป็นแค่ลมที่พัดผ่านหู แต่ไม่ได้ซึมซับเข้าไปในสมองของพวกเขา จนกลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มผู้ค้าว่า บรรดานักการเมืองเหล่านี้มีธงอยู่ในใจ
และธงนั้นคือ เอื้อประโยชน์ทุนใหญ่
ลองคิดภาพเงินที่เคยหมุนเวียนจับจ่ายใช้สอยกันข้างทางหายไป 5 แสนล้าน เพราะนโยบายกวาดล้างของรัฐบาลและกทม. แต่คนก็ยังจำเป็นต้องบริโภคอยู่ แล้วเงินเหล่านั้นจะไปอยู่ที่ไหน
ผมไม่ได้บอกว่าทุนใหญ่สั่งให้มาทำนะครับ บางทีหมารับใช้เหล่านี้อาจจะอยากเลียเพื่อประจบสอพลอเองก็เป็นได้
“การช่วยเหลือประชาชนที่ดีที่สุด ไม่ใช่การแจกเงิน แต่เป็นการให้โอกาสพวกเขาได้ประกอบอาชีพ และยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง”
ประโยคนี้พวกเราพร่ำบอกมาไม่รู้กี่รัฐบาล กี่ผู้ว่า แต่พวกเขาก็ไม่ฟัง
ลองดูสิครับ ลองเปิดพื้นที่ให้คนฐานราก หรือผู้ที่ตกงานเพราะถูกเลิกจ้าง ได้มีโอกาสกลับมาประกอบอาชีพอีกครั้ง หากมันเละเทะเกะกะก็ยกเลิกไปอีกทีก็ได้ เหมือน’กัญชา’ที่กำลังเล่นลิเกกันอยู่
ชาวต่างชาติมาเที่ยวบอกหาสตรีทฟู้ดแทบไม่เจอ เลยต้องไปกินในห้างกันหมด ขาดเสน่ห์ของเมือง เพราะวัฒนธรรมทางด้านอาหารมันหายไป
ของคาว ของหวาน อาหารโบราณ ฝีมือคนเฒ่าคนแก่ ข้าวแกงอร่อยๆ หอยทอดผัดไทยสูตรเฉพาะ ทองหยิบทองหยอด ที่หวานกำลังดี หาแทบไม่ได้แล้ว
..น่าเสียดายนะครับ อาหารไทยนี่แหละคือ soft power ที่ดีที่สุด แต่เรากลับทำลายมัน
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS