ทนายเกิดผล กางข้อกฎหมาย ในกรณีที่ลูกตาย แม่จะเรียกค่าสินไหมแบบนั้นไม่ได้ แม่เรียกได้แต่ค่าจัดการงานศพ และค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดูเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดังได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีแม่ของแตงโม ระบุถึงเงินเยียวยา 30 ล้านบาท ว่า
การเรียกค่าสินไหมทดแทน ในกรณีที่มีผู้อื่นทำให้ลูกตาย แม่สามารถเรียกค่าทดแทนตามกฎหมายได้ เท่าที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เท่านั้น
ไม่ใช่ว่าอยากเรียกเท่าไหร่ตามอำเภอใจ โดยไม่มีกฎหมายรองรับได้ทุกอย่างนะครับ
ในกรณีที่บุตรเสียชีวิตทันที โดยไม่มีการรักษาพยาบาลก่อนเสียชีวิต กฎหมายให้เรียกค่าสินไหมทดแทน ได้ 2 กรณี คือ
1.ค่าปลงศพ หรือค่าจัดการงานศพ
2.ค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดู
นอกจากนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้
ต่างจากกรณี ผู้ถูกละเมิด บาดเจ็บไม่ถึงตาย แต่ขาดรายได้ ขาดประโยชน์จากการทำงาน แบบนี้สามารถเรียกได้ เช่น แตงโม อายุ 30 มีรายได้เดือนละ 150,000 บาท ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยประจำตัว หากไม่เสียชีวิตก่อนจะมีอายุยืน และ ทำงานต่อไปได้ไม่น้อยกว่า 30 ปี (นับถึงอายุ 60 ปี)
แบบนี้ฟ้องเรียกค่าสินไหมดแทนได้หลายอย่างรวมทั้งค่าขาดรายได้ เดือนละ 150,000 x12 x 30 ได้ด้วย
แต่ในกรณีที่ลูกตาย แม่จะเรียกค่าสินไหมแบบนั้นไม่ได้
แม่เรียกได้แต่ค่าจัดการงานศพ และค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดูเท่านั้น
สมมุติว่าขณะน้องมีชีวิตอยู่ ส่งเสียแม่เดือนละ 15,000 บาท
ขณะนี้แม่อายุ 60 ร่างกายแข็งแรง คาดว่าจะมีชีวิตถึง 70 ปี
แบบนี้แม่เรียกได้แค่เดือนละ 15,000 เป็นเวลา 10 ปี
ไม่ใช่คำนวนจากรายได้ลูกและอายุของลูก นะครับ
แม่ควรมีทนายความนะครับ แม๊..
(มาตรา 443 ในกรณีทำให้เขาถึงตายนั้นค่าสินไหมทดแทนได้แก่ ค่าปลงศพรวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่นๆ อีก
ถ้ามิได้ตายในทันที ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานนั้นด้วย
ถ้าว่าเหตุที่ตายลงนั้นทำให้บุคคลหนึ่งคนใดต้องขาดไร้อุปการะตามกฏหมายไปด้วยไซร้ ท่านว่าบุคคลคนนั้นชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น)