Connect with us

News

ผ่านมาจะ 2 อาทิตย์ เตือน อย่าซ้ำรอยรัฐบาลที่แล้ว

Published

on

กัณวีร์ เตือน อย่าซ้ำรอยรัฐบาลที่แล้ว ที่ปล่อยให้อาชญากรลอยนวล ต่างชาติ 1,598 คน จะจัดการยังไง

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า กัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามถึงรัฐบาล หลังเหตุการณ์ปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์และสแกมเมอร์ที่ “KK Park” เมียวดี ประเทศเมียนมา มีชาวต่างชาติ 1,598 คนจาก 28 ประเทศข้ามเข้ามาในไทย โดยระบุว่า…. ผ่านมาเกือบ 2 อาทิตย์ รัฐบาลจัดการอย่างไรกับต่างชาติ 1,598 คน ผมยังไม่เห็นนายกฯ หรือ คนในรัฐบาล เข้าไปจัดการดูแล อย่าทำงานซ้ำร้อยรัฐบาลที่แล้ว ปล่อยให้อาชญากรสแกมเมอร์ลอยนวล ปล่อยให้คนถูกนำพาเป็นสแกมเมอร์ซ้ำรอบสาม !!!

จากเหตุการณ์ปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งค์คอลเซนเตอร์และสแกมเมอร์ ในพื้นที่ KK Park จังหวัดเมียวดี เมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ตั้งแต่ 22 ต.ค. ถึงต้นเดือน พ.ย. ทำให้มีชาวต่างชาติจำนวน 1,598 คน จาก 28 ประเทศ ที่ทำงานในพื้นที่ KK Park ซึ่งอาจมีทั้งเหยื่อและไม่ใช่เหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ หลบหนีการทิ้งระเบิดทำลายอาคารในพื้นที่ข้ามมายังไทย และเข้าสู่กระบวนการคัดแยกบุคคลต่างชาติในเบื้องต้น แล้วส่งต่อไปยังกลไกการส่งต่อข้ามชาติ NRM นั้น

ผ่านมา เกือบ 2 อาทิตย์แล้ว ยังเห็นการจัดการแบบเดิม ที่เราปล่อยให้ชาวต่างชาติ 10,000 คน ออกไปโดยไม่ได้ข้อมูลสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมสแกมเมอร์เหล่านั้น จนกลับมาเปิดงานได้ใหม่ ดีไม่ดี คนที่หนีจากเคเคปาร์คมารอบนี้ คือคนกลุ่มเดิม ที่ถูกนำพาซ้ำกลับเข้าไปใหม่

สิ่งที่ผมเสนอไปตั้งแต่ต้นคืออย่าปล่อยให้อาชญากรลอยนวล ผมติดตามอยู่นะครับ จนถึงวันนี้ เห็นตำรวจลงไปสืบสวน ก็อยากรู้ว่าได้ข้อมูลที่จะสาวไปถึงขบวนการนำพาหรือไม่ และสาวไปถึงตัวการใหญ่ที่ใช้ประเทศไทยที่ศูนย์กลางในการแจกจ่ายมนุษย์ไปยังแก๊งค์สแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างไร

จากที่ทราบข่าว 1,598 คนผ่านมา 12 วันคัดกรองไปได้ 700 คน มีการส่งตัวดำเนินคดีกฏหมายเข้าเมืองผิดกฏหมาย กว่า 700 คน และเข้าสู่กลไก NRM 18 คน นำตัวเข้าสถานคุ้มครองเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ 5 คน เป็นเวียดนาม 1 คน จีน 4 คน คือถ้าคิดว่าคนที่เหลือสมัครใจไปทำงาน ก็ไม่น่าผิดอะไร ยิ่งสมัครใจ ในกลุ่มคนเหล่านั้น ต้องมีคนนำพา ตรงนี้สิครับ ที่ผมอยากให้สืบสวนสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ถูกนำพามาซ้ำรอบ 3

ส่วนกระบวนการส่งกลับ ล่าสุดส่งกลับชาวเมียนมาไปแล้ว 126 คน และไทย 32 คน เท่าที่ทราบข่าวว่ามีเพียงประเทศอินเดียที่ติดต่อมารับคน ที่มีมากสุด 465 คน ซึ่งจะนำเครื่องบินมารับที่แม่สอดในวันที่ 6 พ.ย.นี้ 200 คน ส่วนประเทศอื่นยังไม่มีการประสานงาน อีก 27 ประเทศ โดยเฉพาะแอฟริกาที่ยากสุด เหมือนรอบที่แล้ว กว่าจะได้กลับไปก็ใช้เวลา 2-3 เดือน เรามีกระทรวงการต่างประเทศนะครับ อย่าทำงานให้ผิดหวังเหมือนรัฐบาลชุดที่แล้ว

แน่นอนครับหลายท่านอาจคิดว่า หน้าที่ความรับผิดชอบ รวมทั้ง ภาระตกมาสู่ทางการไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ !! เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แถมเอากระดูกมาแขวนคอ ไปก็ไปกันเอง โดนทะลายแล้วก็ต้องหนีกระเจิดกระเจิงเข้ามาในไทย แล้วทำไมเราต้องโอบอุ้มอีก !!

นี่คือความเลวร้ายของแก๊งค์อาชญากรรมข้ามชาติ ที่ทั้งหลอกลวงและชวนคนไปทำงานในประเทศไทย แต่หลอกไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน แล้วพาคนเหล่านี้ไปหลอกลวงคน !!

แน่นอนครับว่าความรู้สึกของหลายคนว่า “ทำไมไทยต้องไปแบกภาระนี้ ในเมื่อไปกันเอง แถมพวกนี้ร่วมกันหลอกลวงคนทั่วโลกด้วย ??”
แต่ผมอยากชวนทุกคนมาสร้างความเข้าใจร่วมกันสักนิดครับ ตามกระบวนการ 1-5 ข้อ แล้วเราจะได้เดินหน้ากันอย่างเต็มที่ต่อการจัดการสถานการณ์นี้ไปในทิศทางเดียวกัน

1. อาชญากรรมข้ามชาติ ที่มาในรูปแก๊งค์คอลเซนเตอร์ สแกมเมอร์ ขบวนการนำพาและการค้ามนุษย์ ได้ถูกกำหนดให้เป็นวาระสำคัญเร่งด่วนของเวทีโลกที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกันจัดการ เพราะมันเซาะกร่อนบ่อนทำลายและกัดกร่อนระบบสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ครอบครัวและการดำรงชีวิตของคนในโลกใบนี้ !!

2. ประเทศไทยถูกใช้เป็นเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค์อาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้อย่างเป็นระบบ แก๊งค์มาเฟียระดับโลกนี้ มีแก๊งค์มาเฟียไทยเข้าร่วมอยู่อย่างไม่น้อย มิเช่นนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ยังขยายฐานโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านจากพม่า ไปกัมพูชา และไปยังลาวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขนาดนี้ ไอ้พวกนี้มันเป็นใคร ทำไมเราจับมันไม่ได้ ??

3. การที่ไทยถูกใช้เป็นศูนย์กลางในการแจกจ่าย “มนุษย์” ไปยังที่ต่างๆ อย่างแยบยลนี้ เราต้องมานั่งพิจารณาว่าทำไมทั้งๆ ที่มันเป็นข่าวอึกกระทึกครึกโครมขนาดนี้ มันยังทำกันได้อย่างไม่สะทกสท้านและเย้ยหยันประเทศเราขนาดนี้ ??

4. ทั้งๆ ที่เรามีสถานการณ์ชายแดนที่เข้มข้นทั้งสองด้าน คือทั้งพม่าและกัมพูชา ไอ้พวกนี้มันยังทำงานได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนำพาคนและค้ามนุษย์กันอย่างสบายๆ

5. การฟอกเงินดำให้เป็นเงินขาวในไทยจำนวนมหาศาลขนาดนี้ มันยังเกิดขึ้นได้อีกเหรอ บริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและมีหลักฐานชัดเจน มันยังมีหน้าเปิดโดยไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายของชาติเราอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

นี่คือเหตุผลที่ทำไมเราต้องนำภาษีพี่น้องคนไทยมาจัดการมันอย่างขุดรากถอนโคน อย่าทำตามกระแส แต่ต้องทำงานอย่างเป็นระบบ การเปิดเผยข้อมูลอย่างหนักหน่วงจากหลายๆ คนตอนนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่การจัดการอย่างเป็นระบบจากข้อมูลของหลายๆ คนเป็นสิ่งที่เราต้องการอย่างเร่งด่วน

ทำให้ผมคิดถึงตอนการปราบปรามการค้ามนุษย์จากเหตุการณ์ชาวโรฮิงญาที่ทำให้ทั้งข้าราชการระดับสูงและนักการเมืองถูกเด็ดถูกสอยกันระนาว เข้าคุกเข้าตะราง ตายในคุกและยังอยู่ในคุกอีกจำนวนมาก แต่มันหมดมั้ย ?? ไม่หมดครับ ยังลอยหน้าลอยตากันอย่างโจ๋งครึ่ม !!

สิ่งที่เราต้องเร่งทำคือ ทำระบบจัดการกับสิ่งที่ผมกล่าวมาในข้อ 1 – 5 ให้ได้โดยเร็ว นำกลไกการจัดการออกมา แล้วเร่งการจัดการจาก 5 ไป 1 คือเส้นทางการเดินของเงิน อายัดจับตัวบริษัทต่างๆ ให้เร็วและเด็ดขาด ตัดขาดการใช้ไทยเป็นที่แจกจ่ายมนุษย์อย่างเต็มรูปแบบ เลิดตัดตอนข้อมูลโครงข่ายแก๊งค์มาเฟีย โดยรีบส่งคนต่างๆ กลับประเทศตนโดยไม่มีข้อมูล รีดข้อมูลเสียให้สิ้น ปราบปรามผู้มีอิทธิพลในไทยโดยเด็ดขาด และอย่าปล่อยให้ไทยถูกใช้เป็นทางผ่านการเคลื่อนย้ายทรัพยากรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ทุกรูปแบบ

สุดท้ายกลับมาดูครับ เครื่องมือการจัดการกับผู้ที่หนีตายเข้าไทยก็คือ NRM ตอนนี้ทราบว่าทุกอย่างมีแล้วแต่ทำงานไม่เต็มฟังก์ชันของมัน ยังมีคนอีกจำนวนมากหลายชาติยังติดอยู่ในไทย เพราะเรารอให้สถานทูตของชาติต่างๆ ประสานมา “หากใครไม่ประสานมา เราก็ไม่ประสานไป !!” อย่าทำเลยครับ แจ้งให้ประเทศต้นกำเนิดเค้ามารับเค้าไปเสีย อย่าปล่อยให้เป็นภาระของเราอีกต่อไป

ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ สร้างระบบการจัดการให้เป็นรูปแบบทางโครงสร้างการจัดการอาชญากรรมข้ามชาติ ดึงองคาพยพเวทีโลกมาจัดการให้ได้ เพราะไทยเราคนเดียวคงลำบาก ฝ่ายบริหารต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้โดยเร็วและไม่รีรอครับ

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: