หมอวรงค์ เผย ปัญหาที่น่ากังวลคือ ระยะทาง195 กม.ที่เหลือ จากช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ มาที่ช่องบก จ.สุรินทร์ ที่ไม่มีหลักหมุด
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ปธ.พรรคไทยภักดี โพสต์ระบุว่า…
LiDARอาจตอบโจทย์บางช่วง
เส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ยาว 798 กิโลเมตร ส่วนที่เป็นหลักหมุด 73 หลัก จากช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ เป็นหลักที่ 1 มาจนถึง บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นหลักที่ 73 ส่วนนี้มีความยาว 603 กิโลเมตร
การใช้ LiDAR มาร่วมจัดทำหลักเขตแดน ในพื้นที่ดังกล่าว อาจไม่มีปัญหามาก เพราะมีหลักหมุดที่ชัดเจน และยังมีบันทึกวาจา แผนผังย่อย ที่บอกตำแหน่งหลักหมุด ที่มีรายละเอียด มาตราส่วน1:500 , 1:1000
ปัญหาที่น่ากังวลคือ ระยะทาง195 กม.ที่เหลือ จากช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ มาที่ช่องบก จ.สุรินทร์ ที่ไม่มีหลักหมุด แต่ใช้สันปันน้ำตามธรรมชาติ ซึ่งคำว่าสันปันน้ำในสมัยร้อยกว่าปีที่แล้ว ถ้าไปอ่านคำต่อสู้ของฝ่ายไทยคดี ประสาทพระวิหาร
ฝ่ายไทยยืนยันว่าเส้นสันปันน้ำ จะพาดผ่านไปตามแนวขอบหน้าผา หรือข้อความที่ว่า ขอบหน้าผาเป็น เส้นแดนที่ชัดเจนอยู่แล้ว เท่ากับว่า ในสมัยนั้น เจตนาคือใช้ขอบหน้าผาในบริเวณ เทือกเขาดงรัก แบ่งเขตแดนระหว่าง สยามกับ อินโดจีนฝรั่งเศส (แม้จะใช้คำว่าสันปันน้ำแต่ก็คือขอบหน้าผาในสมัยนั้น)
ดังนั้นในพื้นที่เทือกเขาดงรัก นอกจากแผนที่ 1:200,000 ที่ผิดพลาด กินพื้นที่ประเทศไทย และไทยไม่มีผู้ลงนามรับรองแล้ว การนำ LiDAR เพื่อใช้วัดสันปันน้ำจริง ภายใต้เทคโนโลยีสมัยใหม่ จะไม่สอดคล้องกับ เจตนาข้อตกลงและการต่อสู้ของฝ่ายไทย ในสมัยก่อน นั่นคือขอบหน้าผา และมีความเสี่ยงที่ทำให้ไทยเสียดินแดนเพิ่ม
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS