หมอธีระ ลั่นเคยทำนายแล้วจะมีระบาดรอบ 3 ชี้เปิดประเทศ รอบ 4 มาแน่แถมเอาเชื้อกลายพันธุ์เข้ามา ตั้งแต่วงสังสรรค์ ค้าขาย บริการที่มีความใกล้ชิด แออัด
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนหน้านี้ได้วิเคราะห์ไว้อย่างแม่นยำว่าโควิดจะมีรอบ 2 และมีโควิดรอบ 3 ล่าสุดหมอธีระ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
การเคลื่อนไหวของประชากร จำนวนการสัมผัส พบปะติดต่อ ระยะเวลาที่ใกล้กัน รวมถึงการค้าขาย และบริการที่มีความใกล้ชิด จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการระบาดระลอกที่สี่ของไทยเราครับ
หากจำกันได้ เคยคาดการณ์จากข้อมูลที่ติดตามประเทศอื่นๆ ที่ระบาดระลอกสามมาก่อนเราว่า ถ้าเราเป็นไปตามค่าเฉลี่ยของเค้า คงจะต้องสู้ไปยาวถึงประมาณ 21 กรกฎาคมเป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ตาม อาจยืดยาวกว่านั้น หากมาตรการจัดการควบคุมไม่เข้มข้นพอ จะมีบทเรียนจากบางประเทศที่ติดเชื้อหนักไปเรื่อยๆ ก็มีความเป็นไปได้
นอกจากนี้พอประเมินสถานการณ์ปัจจุบันที่เรามีอาวุธป้องกันอย่างวัคซีนที่ปริมาณจำกัด ชนิดจำกัด และยังไม่สามารถทำให้ทุกคนในประเทศเข้าถึงได้อย่างครอบคลุม ประกอบกับระบบการตรวจคัดกรองโรคที่ยังตรวจได้จำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก
การเปิดการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติเข้ามาจึงมีโอกาสสูงที่จะนำไปสู่การระบาดระลอกที่ 4 ซึ่งอาจมาในรูปแบบที่กระหน่ำซ้ำต่อจากระลอกสาม หรือหลังจากนั้น จะช้าหรือเร็วคงขึ้นกับจำนวนนักท่องเที่ยว และการกระจายตัวท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ที่มีความชุกของการติดเชื้อในพื้นที่มากน้อยเพียงใด
ความเสี่ยงหลักในสายตาของผมไม่ใช่การมีโอกาสนำพาเชื้อกลายพันธุ์เข้ามาเท่านั้น แต่เป็นจากการทำให้เกิดกิจกรรมการพบปะสังสรรค์ ค้าขาย บริการที่มีความใกล้ชิด แออัด จำนวนครั้งมากขึ้น เวลาสัมผัสมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จะมีอิทธิพลสูงต่อการทำให้เกิดการระบาดซ้ำ
หากเริ่มกรกฎาคม มีโอกาสจะได้เริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ปลายสิงหาคมหรือต้นกันยายน แต่จะเห็นชัดมากที่ไตรมาสสุดท้ายของปี
ที่เล่ามายืดยาว เพื่ออยากกระตุ้นเตือนให้พวกเราช่วยกันป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนท้องถิ่นในพื้นที่ท่องเที่ยว และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงจังหวัดศูนย์กลางการคมนาคม
และที่สำคัญมากคือ สำรองทุนเก็บไว้ด้วยนะครับ อย่าเพิ่งทุ่มหมดหน้าตักไปกับการขยายหรือฟื้นฟูกิจการเพื่อหวังทำกำไรเต็มที่ เพราะหากเกิดระบาดซ้ำ จะสูญทุนที่ลงไปมาก เราได้เรียนรู้จากปลายปีก่อนและต้นปีนี้มาแล้ว
การที่จะมั่นใจได้ก็ต่อเมื่อ ระบบพื้นฐานมีความมั่นคงมากๆ เช่น ระบบการตรวจคัดกรองมากเพียงพอและครอบคลุม วัคซีนมีมากชนิดและปริมาณมากเกินจำนวนประชากรและได้รับการฉีดอย่างครอบคลุม และสถานการณ์การระบาดในภาพรวมทั่วโลกควบคุมได้แล้ว
จากที่ประเมินสถานการณ์ขณะนี้ เราอาจมีโอกาสต้องเผชิญการระบาดอยู่เรื่อยๆ ไปถึงอย่างน้อยกลางปีหน้า ถ้าไม่รีบตัดวงจรการระบาด เสริมศักยภาพระบบตรวจคัดกรอง และเร่งจัดหาวัคซีนอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย เข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง mRNA vaccines
ระหว่างนี้ ใส่หน้ากากกันนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า
You must be logged in to post a comment Login