Connect with us

News

แผนเด็ด!! รังสิมันต์ โรม จัดการกัมพูชา รับรองมีร้อง!!  อยู่หมัด โดยไม่ต้องรบ

Published

on

รังสิมันต์ โรม เผย ยุทธศาสตร์ 10 ข้อ ชนะกัมพูชา โดยไม่ต้องรบ

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงาน นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน โพสต์ระบุว่า…

ถึงนายกรัฐมนตรี นำเสนอยุทธศาสตร์ชนะโดยไม่ต้องรบ

สวัสดีพี่น้องคนไทยที่รัก หลังจากที่ผมมาเข้าร่วม Shangri-La Dialogue ที่ประเทศสิงคโปร์ในฐานะที่ผมดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการความมั่นคงรัฐฯ ผมพบว่ามีหลายเรื่องที่ร้อนแรงและเป็นความท้าทายของประเทศไทยเราผ่านการแสดงท่าทีสำคัญของผู้นำโลกหลายประเทศ คงมีหลายเรื่องที่ประเทศไทยจะต้องเตรียมตัวอีกมาก เพราะแนวโน้มโลกเรามันจะร้อนจริงๆ (รายละเอียดกว่านี้ผมคงจะได้เขียนต่อไป) อย่างไรก็ดีในห้วงเวลาที่ผมมาร่วมสัมมนาดังกล่าว ซึ่งมีทั้ง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ตลอดจนผู้บัญชาการทหารสูงสุดเข้าร่วมด้วยนั้น เป็นช่วงเวลาที่ประเทศเรามีความขัดแย้งอย่างมีนัยยะสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา

ผมทราบดีว่าความสัมพันธ์ของประเทศเรา และกัมพูชาอยู่ในสภาวะตึงเครียด และผมทราบดีว่าพี่น้องเป็นห่วงต่อบูรณะภาพดินแดนของประเทศเรา และคงอยากให้ผู้มีอำนาจทำทุกความเป็นไปได้เพื่อปกป้องชาติจากภัยคุกคามใดๆ โดยเฉพาะเมื่อความขัดแย้งนั้นเกิดขึ้นกับกัมพูชา ส่วนตัวผม ผมมั่นใจในศักยภาพของกองทัพ แต่เครื่องมือทางการทหารจะไม่ใช่เครื่องมือแรกในการที่เราจะคลี่คลายความขัดแย้งนี้

ผมอยากให้พี่น้องประชาชนสังเกตว่า รัฐบาลกัมพูชาเองก็ทราบถึงศักยภาพของกองทัพไทย แต่ทำไมกัมพูชากลับดำเนินการยุทธวิธียั่วยุประเทศไทยต่อไป นั่นเป็นเพราะกัมพูชาทราบดีว่า ชัยชนะของกัมพูชามิใช่เกิดจากการสู้รบ แต่เกิดจากการทำลายความชอบธรรมของประเทศไทยผ่านมิติต่างๆ ไม่ว่าจะการทูต การใช้กลไกระหว่างประเทศ กัมพูชาหวังว่าการยั่วยุของกัมพูชาจะทำให้ไทยพลาดเอง ยังไม่นับว่าในห้วงที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ กัมพูชาได้อยู่ในฐานะที่อาจจะใช้ประโยชน์ตรงนี้ได้มากทีเดียว ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้นานาประเทศรู้สึกว่า เราไปรังแกประเทศที่เล็กกว่า

ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการขัดกันด้วยอาวุธเกิดขึ้น ผมอยากให้พี่น้องเห็นว่า พี่น้องเราที่ชายแดนจะต้องรับภาระเรื่องนี้อย่างใหญ่หลวง นอกจากความเสียหายทางเศรษฐกิจแล้ว พวกเขาต้องหนีเข้าบังเกอร์ อยู่ด้วยความหวาดกลัว ไม่นับว่าอาจจะเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินต่างๆอีกมากมาย และด้วยข้อจำกัดทางอาวุธของฝ่ายกัมพูชา มีโอกาสเป็นไปได้อย่างมากที่กัมพูชาจะสร้างความเสียหายต่อประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์มากกว่าเป้าหมายทางทหาร ดังนั้น ต่อให้ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราจะรบชนะในศึกนี้ แต่นั่นอาจเป็นการเปิดช่องให้เกิดการแทรกแซงจากกลไกอื่น หรือมหาอำนาจอื่นซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทยในระยะยาว (ยาเสพติดทำให้ประเทศไทยอ่อนแอ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำให้คนไทยได้รับความเสียหาย สงครามจะทำให้ประเทศไทยเสียความชอบธรรม เราต้องพิจารณาดีๆว่าใครได้ประโยชน์สิ่งนี้)

พี่น้องประชาชนที่เคารพ ทั้งประเทศไทย และกัมพูชา เราไม่สามารถยกประเทศหนีไปไหนได้ ประเทศไทยได้เปรียบดุลการค้ากัมพูชา คนกัมพูชาโดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะร่ำรวยเข้ามารักษาพยาบาลที่ประเทศไทย นักลงทุนไทยไปลงทุนที่กัมพูชาก็ไม่น้อย

ขณะเดียวกันเราก็เจอปัญหาหลายอย่างจากกัมพูชามากมายเช่นเดียวกันซึ่งทั้งสองประเทศต้องร่วมมือแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีนับร้อยแก๊งอยู่ที่กัมพูชาหลายแก๊งอยู่ที่ปอยเปต ซึ่งประเทศไทยขายไฟฟ้า และอินเตอร์เน็ตไปให้กัมพูชา แก๊งเหล่านี้หลอกคนไทย หรือจำนวนมากก็เต็มใจเข้าไปเพื่อหลอกคนไทย ทำลายเศรษฐกิจประเทศไทยอย่างย่อยยับ โดยแก๊งเหล่านี้มักจะรู้เห็นกับบรรดาออกญาทั้งหลายในกัมพูชาที่มีความใกล้ชิดกับศูนย์กลางอำนาจในกัมพูชา ออกญาบางคนอาจจะมีสัญชาติไทยด้วย (ซึ่งต้องตรวจสอบกันต่อไปว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากแค่ไหน เพราะอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่เกี่ยว)

ด้วยเหตุผลและความจำเป็น ผมอยากเสนอยุทธศาสตร์ต่อรัฐบาลที่เรียกว่า “ชนะโดยไม่ต้องรบ”

1.แทนที่จะรบทางการทหาร มาชนะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยกันดีกว่า กำจัดบรรดาข้าราชการสีเทาที่มีอยู่ทั้งสองฝั่งให้หมด ผมอยากให้นายกรัฐมนตรีกลับมาแข็งขันต่อการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง ด้วยการสั่งการให้ตำรวจลองไปดูว่ามีออกญากัมพูชาเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์บ้าง ปปง. ลองดูว่าทรัพย์สินใดบ้างของออกญาเหล่านี้ที่ได้มาจากการกระทำความผิด ถ้าพบว่ามีมูล ต้องรีบดำเนินการตามกฎหมายยึดอายัดไว้เลย อย่าปล่อยให้ยักย้ายถ่ายเท ดีเอสไออาจพิจารณาในการออกหมายจับพวกออกญาเหล่านี้ได้เลย ที่สำคัญต้องคุยกับอัยการสูงสุดให้ทำงานเรื่องนี้ อย่าให้เหมือนกรณีหม่องชิตตูที่วันนี้อัยการสูงสุดยังประวิงเวลาไม่ทำอะไร แม้ดีเอสไอจะทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว

2.กระทรวงมหาดไทยจะต้องพิจารณาว่าสามารถมีมาตรการใดๆในการกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้บ้าง อย่างไฟฟ้าที่ปอยเปตจะเอาอย่างไร ตัดหรือไม่ตัด ตรงนั้นเราขายไฟมากทีเดียว

3.ต่อเนื่องจากไฟฟ้า กสทช. ต้องตรวจสอบว่าเน็ตของเราขายไปให้ทางกัมพูชาเยอะมาก ต้องมีมาตรการได้แล้ว เครือข่ายใดขายเน็ตให้กัมพูชา เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ พ.ร.ก.ป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์กำหนดให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตต้องร่วมรับผิด ต้องดำเนินการใดๆแล้วหรือไม่

4.ในส่วนของกระทรวงต่างประเทศ ผมคิดว่านอกจากเจรจากับกัมพูชาแล้ว ผมอยากให้กระทรวงต่างประเทศพิจารณาเจรจากับเวียดนามด้วย ตลอดจนไปถึงประเทศจีน เราจำเป็นต้องมีทางเลือกทางการทูตมากเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากประเทศจีนอีกด้วย

5.ผมอยากให้ท่านรองนายกและรัฐมนตรีกลาโหมเพิ่มบทบาทของคนในกองทัพที่สามารถพูดภาษากัมพูชาได้ โดยเฉพาะใครบ้างที่ทำงานพื้นที่ชายแดนเป็นเวลานาน จะช่วยให้การพูดคุยภายใต้ยุทธศาสตร์ชนะโดยไม่ต้องรบมีโอกาสมากยิ่งขึ้น

6.เนื่องจากกัมพูชาเคลียร์เส้นเขตแดนกับทางลาวและเวียดนามน่าเชื่อว่าจบแล้ว โดยกัมพูชาโดนเวียดนามบี้ ส่วนกัมพูชาก็ไปบี้ลาวอีกที ผมเสนอว่าเรื่องเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ต้องทำแผนอย่างชัดเจนให้เห็นว่าเขตแดนเหล่านี้จะอำนวยซึ่งการพัฒนาทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ การใช้เรื่องเขตแดนมาเป็นเกมการเมืองเพื่อปลุกกระแสชาตินิยมจะสร้างความเสียหายตามมา เรื่องเขตแดนไม่มีใครถูกร้อยเปอร์เซ็นหรือผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ บางจุดนี่ถึงขนาดเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ล้ำแดนไทยมาเลย ผมคิดว่าเราต้องทำให้เขตแดนเป็นความมั่นคงร่วมกัน มากกว่าของประเทศใดประเทศหนึ่ง


7.สมช. ต้องมีบทบาทมากกว่านี้ หน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะมหาดไทย กองทัพ หรือแม้แต่กระทรวงแรงงานต้องทำงานอย่างสอดประสานกัน เราจะได้รู้ว่าจะต้องวางไพ่ใดบ้าง อย่างเรื่องแรงงานกัมพูชา เข้ามาทำงานในประเทศไทยจำนวนมาก เป็นแหล่งรายได้สำคัญต่อเศรษฐกิจกัมพูชา และรวมถึงไทยด้วย เราต้องเตรียมการว่าหากเกิดอะไรขึ้นจะดำเนินการอย่างไร และเตรียมความพร้อมกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น


8.แม้ว่าข้อเสนอของผมจะมุ่งเน้นในเรื่องของการใช้วิธีการอื่นที่ไม่ใช่การรบเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่การเตรียมความพร้อมในกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็เป็นเรื่องจำเป็น รัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณ การจัดการ การเตรียมพร้อม และการประสานงานเพื่อให้มั่นใจว่าบังเกอร์เรามีความพร้อม ศูนย์พักพิงมีความพร้อม อาหารมีความพร้อม การสื่อสารมีความพร้อม การเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางมีความพร้อม เพื่อจะไม่เกิดความโกลาหลเด็ดขาด


9.ในระยะยาว ผมคิดว่าเราต้องมียุทธศาสตร์กับกัมพูชาระยะยาวอย่างไร ทั้งมิติการค้า การลงทุน เศรษฐกิจ ความมั่นคง ตลอดจนสิ่งแวดล้อม และปัญหาอาชญากรรม เพราะดูๆแล้ว กัมพูชาคงจะใช้เราเป็นเครื่องมือในการสร้างบรรยากาศชาตินิยมเพื่อหวังผลทางการเมืองภายใน นึกอะไรไม่ออกก็ด่าไทย เป็นแบบนี้ทุกครา เราต้องคิดแล้วว่าจะการดำเนินการอย่างไรกับกัมพูชาระยะยาว


10. ผมอยากให้รัฐบาลโดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่หน้างาน ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาบุคคลสำคัญๆ ล้วนลงพื้นที่ทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากจะเข้าใจว่าพื้นที่หน้างานเป็นอย่างไรแล้ว อีกด้านก็จะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับทหารชั้นผู้น้อยด้วย จะทำให้การออกแบบกลยุทธ์ของประเทศไทยมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น


สุดท้ายนี้ ผมจะนำเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา เข้ากรรมาธิการความมั่นคงฯ โดยผมจะเชิญท่านนายกรัฐมนตรี ท่านภูมิธรรม ตลอดจนกองทัพไทย กองทัพบก และ สมช. เพื่อพูดคุยในกรรมาธิการความมั่นคงฯวันที่ 12 มิ.ย. 2568 นี้แล้ว (ขออภัยที่เร็วกว่านี้ไม่ได้เพราะวันที่ 5 มิ.ย. เราต้องพิจารณาเรื่องปัญหาว้ากับแม่น้ำกก) ซึ่งผมจะกำหนดให้เป็นวาระลับเพื่อให้ทุกฝ่ายคุยอย่างเต็มที่ (ขออภัยที่เร็วกว่านี้ไม่ได้เพราะวันที่ 5 มิ.ย. ผมได้บรรจุวาระพิจารณาเรื่องปัญหาว้ากับแม่น้ำกกก่อนหน้านั้นนานแล้ว)

ผมอยากใช้โอกาสนี้เพื่อย้ำว่าหากเราทำสำเร็จกัมพูชาจะพบว่าการแสวงหาความร่วมมือกับไทยจะเป็นทางเลือกเดียวที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายมากที่สุด การพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาชายแดน การทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศหลุดพ้นจากความยากจนล้วนเป็นเป้าหมายที่สำคัญของทั้งสองประเทศ การเผชิญหน้าทางการทหาร การยั่วยุใดๆที่ทำให้เกิดการขัดกันทางอาวุธมีแต่นำพาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติมากกว่า โดยเฉพาะฝั่งกัมพูชาที่เพิ่งพาหลายๆอย่างจากประเทศไทย

หวังว่าคุณแพทองธาร นายกรัฐมนตรีจะพิจารณา

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: