Connect with us

News

อากาศยังคงปิดและลมสงบต่อเนื่อง  วันนี้ 4 ก.พ.66!! คือวันเฝ้าระวังฝุ่น

Published

on

ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังสูงขึ้นในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศยังคงปิดและลมสงบต่อเนื่อง เฝ้าระวังพิเศษถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์            

ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่าฝุ่นลดลงเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้แต่ยังคงสูงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ทุกพื้นที่พบสูงสุด 92 – 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพถึง 3 พื้นที่ คือ

– ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน
– ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
– ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

เนื่องจากอากาศยังคงปิดและลมสงบต่อเนื่อง ประกอบกับ การจราจรหนาแน่นในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์แบบจำลองคุณภาพอากาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด บริเวณพื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ (พื้นที่ท้ายลม)

จึงขอความร่วมมือประชาชนบำรุงดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ จอดรถให้ดับเครื่อง ลดการเผาในที่โล่ง ใช้รถเท่าที่จำเป็น Work From Home และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ หากอยู่บริเวณพื้นที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ พื้นที่สีส้มและสีแดง ให้หลีกเสี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ N95 หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์                        

ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงและแบบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซด์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK แล้วยังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: