กฎหมายใหม่ คุ้มครองแรงงาน จ่อเข้าสภาวาระ 2-3 ในเดือนธันวาคม 2568
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แถลงข่าวร่วมกันว่าพิจารณาร่างกฎหมายเสร็จแล้ว หลังจากได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกฝ่ายอย่างรอบด้านและต่อเนื่อง โดยที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีมติซึ่งเป็นสาระสำคัญในร่างกฎหมายดังนี้
ลดชั่วโมงการทำงาน จากเดิม 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ลงเหลือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เว้นแต่งานเสี่ยงอันตรายจะไม่เกิน 35 ชั่วโมง (ยึดตามร่างของพรรคประชาชน)
เพิ่มวันหยุดประจำสัปดาห์ จากเดิมสัปดาห์หนึ่งไม่น้อยกว่า 1 วัน โดยวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องมีระยะห่างกันไม่เกิน 5 วัน แก้ไขเพิ่มเป็นสัปดาห์หนึ่งไม่น้อยกว่า 2 วัน โดยวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องมีระยะห่างกันไม่เกิน 5 วัน (ยึดตามร่างของพรรคประชาชน)
เพิ่มวันหยุดพักผ่อนประจำปี จากเดิมกำหนดให้ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาแล้วครบ 1 ปี จึงมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีได้ไม่น้อยกว่า 6 วันทำงานต่อปี แก้ไขเป็นให้ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาแล้วครบ 180 วัน มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีได้ไม่น้อยกว่า 10 วันทำงานต่อปี (ยึดตามร่างของพรรคประชาชน)
ส่วนที่มีการแก้ไขจากร่างของพรรคประชาชน คือประเด็นว่า พ.ร.บ. นี้ จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด
o เดิมได้เสนอให้มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
o แต่จากการประชุมเพื่อรับฟังความเห็นจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน ผู้แทนนายจ้าง ผู้แทนลูกจ้าง คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วเห็นว่าควรแก้ไขให้มีผลบังคับใช้ภายใน 1 ปีนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง กระทรวงแรงงาน มีเวลาอย่างเพียงพอในการปรับตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่าน
พรรคประชาชนผลักดันร่างกฎหมายนี้ มีเจตจำนงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงาน ให้คนทำงานมีความมั่นคงในการทำงานมากขึ้น เราเชื่อว่ากฎหมายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ผู้ประกอบการจะมีคนทำงานที่มีผลิตภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน แรงงานมีเวลาพักผ่อน ใช้จ่ายเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม มีกฎหมายอีกหลายฉบับที่เราต้องร่วมกันผลักดันต่อไปเพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างเป็นธรรม
ร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ฉบับแรงงานมีเวลาพักผ่อน จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2-3 ในสมัยประชุมหน้า ซึ่งจะเปิดสมัยในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เมื่อสภาเห็นชอบ จะไปสู่ชั้น สว. ต่อไป
จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันติดตามการลงมติทั้งในวาระ 2-3 ของสภาผู้แทนฯ และในชั้นวุฒิสภา ไปด้วยกัน
