โหรฟองสนาน อ่านอาเพศปชป.กับแนวโน้มอายุรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า โหรฟองสนาน จามรจันทร์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan ระบุว่า…
แม่หมอสมัครเล่นตอนที่547 โดยฟองสนาน จามรจันทร์อ่านอาเพศปชป.กับแนวโน้มอายุรัฐบาล
หลังจากได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ก็มีมติเข้าร่วมรัฐบาลไปเมื่อ29 สิงหาคม 2567ในแบบไม่มีมิตรแท้ หรือศัตรูถาวรทางการเมือง
ส่วนลีลาชีวิตพรรคพรรคประชาธิปัตย์ นั้นโชคดีที่มีครูโหรผู้ล่วงลับ พลูหลวง ท่านให้ข้อมูลกำเนิดพรรค คือเกิดศุกร์ที่ 5 เมษายน 2489 จากการประชุมของสมาชิก50 คน ณ คฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เวลาใกล้ค่ำ
เมื่อนำมาผูกเป็นดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์แล้วลัคนาสถิตราศีกันย์ตามรูป
ด้วยมีดวงกำเนิดพรรคแล้ว จึงไม่ต้องไปตรวจดูดวงชะตาคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อนหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันซ้ำ ส่วนโหรบางท่านอาจใช้ฤกษ์กำเนิดอื่นก็ไม่ว่ากัน
พรรคประชาธิปัตย์อายุครบ78ย่างเข้า79ปี เป็นพรรคการเมืองที่อายุยืนยาวที่สุดในเมืองไทย ผ่านมาทั้งความรุ่งเรืองและร่อแร่รุ่งริ่ง แถมฆ่าไม่ตายเพราะถือกำเนิดขณะพระจันทร์เสวยฤกษ์กิตติกา ในกลุ่มโจโรฤกษ์ ขนาดผ่านการยุบมาแล้วสองครั้งโดยจอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
อีกทั้งพระเกตุ(๙)ดาวอายุยืนตามหลักโหรกุมพุธ(๔)ดาวประจำชีพ-และกิจการงานของพรรคด้วย เลยตายแล้วฟื้น-ฟื้นแล้วฟุบหมุนเวียนไปตามโลกธรรมแปด
เพียงแต่ดาวคู่นี้ไปกุมกันในดินแดนที่เสียคือราศีกุมภ์ซึ่งเป็นภพอริ-ปัญหาอุปสรรค ถ้าอ่านในแง่ดีคือเป็นนักสู้-แข่งขัน แต่ด้านลบคือมักจะสร้างปัญหา-หาเรื่องเดือดร้อนสร้างปัญหาอุปสรรคให้ตัวเอง
ราศีกันย์เป็นราศีหญิงสาวหรือนางงาม ผู้นำของพรรคที่ถูกโฉลกจึงออกแนวดูสุภาพเรียบร้อยมากกว่านักเลง จึงน่าเสียดายที่พรรคยังไม่มีหัวหน้าพรรคเป็นหญิง
ประกอบพระจันทร์(๒)เป็นตัวแทนแม่ หรือการปกปักษ์รักษาตามหลักโหร ลอยเด่นในราศีพฤษภ ได้มาตรฐานอุจจ์-สูง สัญลักษณ์ของพรรคจึงเป็นเพศหญิงคือแม่ธรณีบีบมวยผม ฯลฯ
ทีนี้มาดูลีลาดาวจรที่ทำกับดวงชะตาระยะนี้
1.ด้านบวกมากกว่าลบเป็นมาตั้งแต่1มีนาคม 2566-14กุมภาพันธ์ 2569ที่สู้กับปัญญหาอุปสรรคแล้วมีโอกาสได้โชคใหญ่ตามโฉลก…ได้ลาภใหญ่ก็ต้องใจอันสำราญ…(พระเสาร์จร7เดินในราศีภุมภ์ภพอริ)
โชคจากการต่อสู้นี้มาถึงทั้งพรรคเองและด้านงานด้วย และศัตรูคู่แข่งขันจะพ่ายแพ้ตามโฉลก..ดุจนั้นโฉลกเห็น โชคลาภจะพูลเพ็ญ และศัตรูจะปรา…(พระเสาร์จร7ทับพระพุธ๔ดาวประจำชีพและตัวแทนการงาน)
เกณฑ์นี้ท่านที่ลัคนาสถิตราศีกันย์ทั้งหลายก็ได้รับด้วย เฉกเช่นพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายก็ได้ร่วม
2.ด้านบวกเติมมา เริ่มมาตั้งแต่ 30 เมษายน 2567และจะเป็นไปถึง13พฤษภาคม 2568ที่จะ….ได้ฐานาลุลาภาอยู่นองเนือง..(พฤหัสบดีจร5 เดินยู่ในราศีพฤษภ ภพที่เก้าของดวงชะตา)
อีกทั้งมีโอกาสได้โชคใหญ่ ถ้าเป็นคนมีโอกาสได้แต่งงาน ศัตรูพ่ายแพ้…ตามโฉลก…ครุต้องศศิโชค จะลุโยคยุวภา ผิว์หญิงจะลุสา- มีเหมือนดุจปอง ปรปักษ์จะปรา ชยโชคจะสนอง…. (พฤหัสบดีจร5ทับพระจันทร์ดวงเดิม๒)
สรุปจากเกณฑ์1และ2รวมกันคือ หลังจากหลังเลือกตั้งลุ้นเป็นฝ่ายรอร่วม(รัฐบาล)มานานขันหมากจากพรรคเพื่อไทยส่งเทียบมาเชิญเข้าร่วมรัฐบาล เป็นไปตามตำราเป๊ะ
3.ด้านบวกแต่พ่วงด้านลบเพียบเพราะเต็มไปด้วยความอาเพศ คือ7ปีระหว่างกลางกรกฎาคม2565-กรกฎาคม 2572 ด้วยลางว่าดาวอาเพศ-การปฏิวัติ-เปลี่ยนแปลงใหญ่(มฤตยูจร0)เข้าไปเดินในดินแดนความเชื่อ-ศาสนา-อุดมการณ์-อุดมคติ-ความฝันในห้วงสำนึก-ทางชีวิตของพรรค(มฤตยูจร 0 เดินในราศีพฤษภ-ภพที่เก้า-ศุภะ) ผลคือ
3.1 ด้านบวกหากใฝ่ฝันอะไรต้องตามหาและลงมือทำให้ได้ เช่นอยากเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องสู้และตามหา-ทำให้ได้ เหมือนที่ได้-เลือกทำไปแล้ว
3.2ด้านลบเกิดปัญหาอุปสรรค-ขัดแย้ง-ปะทะเพราะมีเปลี่ยนแปลงอย่างมากด้านวิธีคิด-ความเชื่อ-อุดมการณ์ในพรรค และเกิดแบบอาเพศชวนตกตะลึง(มฤตยูจร0ดาวภัยอาเพศ-ตัวแทนภพอริ เดินในราศีพฤษภทับพระจันทร์ดวงเดิม๒-ตนุเศษ-วิธีคิด)
ถ้าเป็นคนระยะเจ็ดปีนี้จะเปลี่ยนวิธีคิดรุนแรงมากเช่นเปลี่ยนศาสนาก็มี
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็ตัดสินร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคู่แข่งเก่า
เกณฑ์ข้อสามนี้มุมของดาวจรคล้ายๆสื่อล่อให้เกิดเหตุขัดแย้งความคิดช่วงเกิดกลุ่มสิบมกรา (คราวนั้นมฤตยูจร0เดินในราศีพิจิก ทำมุมเล็งราศีพฤษภ-ภพศุภะ คราวเจ็ดปีนี้มฤตยูจร 0 เดินในราศีพฤษภ มีผลเหมือนทับกันเพียงสลับฝ่าย) มาคราวนี้ก็เรื่องร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
4.เทียบเชิญ-การร่วมรัฐบาลเกิดขึ้นขณะพรรคเหมือนคนอกแตก-ร้าวภายในอยู่ก่อนแล้ว ที่เริ่มเป็นมาตั้งแต่18ตุลาคม 2566 และจะเป็นไปถึง5พฤษภาคม2568(พระราหูจร8เล็งลัคนา-ดวงแตกหรือพินทุบาทว์)
ดวงแตก-ร้าวนี้มีโอกาสกระทบถึงผู้นำ-บุคคลระดับต่างๆในพรรคด้วยเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง วิวาทกันตามโฉลก..จะปะทุษฎลาภา ศัตรูจะเมียงมาตร์ จะวิวาทวิวาทา จากบุตรภรรยา จะตะโกรงกะโทงกาย..(พระราหูจร8ทับพระอาทิตย์ดวงเดิม๑)
ลีลาพรรคแตก-ร้าวข้อนี้แหละที่เป็นตัวตัดสินให้แตกหักระหว่างกลุ่มสิบมกราและพรรคประชาธิปัตย์ ในที่สุดกลุ่มสิบมกราก็แยกตัวออกไปสู้- ไปตะโกรงกะโทงกายนอกพรรค
คราวนี้เสียงส่วนใหญ่ในพรรคให้ร่วมรัฐบาล และเสียงส่วนน้อยแต่ล้วนแต่เซียนการเมืองเป็นฝ่ายไม่ยอมไปร่วม
สำคัญที่พรรคเพื่อไทยและท่านนายกฯแพทองธาร ชินวัตรและเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องระวังคือ รอบสิบมกราส่งผลให้นายกรัฐมนตรีขณะนั้นคือพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ต้องยุบสภา เมื่อ29เมษายน 2531เพราะปัญหาในพรรคประชาธิปัตย์
หากเทียบปรากฎการณ์ดาวรอบนั้นกับรอบนี้ให้จับตา ปราการณ์เปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมืองที่จะเกิดรอบนี้ด้วยปัจจัยร่วมหรือหลังจากพรรคประชาธิปัตย์คือระหว่าง5พฤษภาคม 2568เป็นต้นไปยาวนาน18เดือน
ครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องของดวงดาว อีกครึ่งเป็นเรื่องของการกระทำ ถ้าใช้ฝีมือก็อาจพลิกผลลบเป็นบวกได้
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS