หมอแนะผู้ใหญ่ต้องคอยสังเกตอาการตัวเอง ไม่ต้องรอขึ้น 2 ขีด
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หรือ “หมอธีระวัฒน์” ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า โรงเรียนอนุบาลประถมเอทีเค (อาจขึ้นช้า)เด็กมีอาการ อยู่บ้านก่อนดีกว่าเป็นไวรัสอื่นๆที่แพร่ก็ได้
ทั้งนี้ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ยังโพสต์ข้อความแนะผู้ใหญ่ต้องคอยสังเกตอาการตัวเอง ไม่ต้องรอขึ้น 2 ขีด ว่า
- อย่าถามว่าประเทศอื่น คนอื่น ทำไมไม่ใส่หน้ากาก ไม่กลัวโควิด
- ถามตัวเองก่อนว่า ถ้าติดมีความเสี่ยง อาการหนัก ตาย เท่าไร? ซึ่งขึ้นกับ ต้นทุนสุขภาพตนเอง ความเสี่ยง อ้วน ความดัน เบาหวาน ที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยคุมหรือไม่ บุหรี่ เหล้า? ฉีดวัคซีนแล้ว 3 เข็มหรือยัง วัคซีนเข็ม 4 มีความหมาย โดยเฉพาะคนเปราะบาง และ 608 ถ้าเคยติดแล้ว (ถือเป็นต้นทุน)
- ถามตัวเองว่า ถ้าติดแล้ว ไม่เป็นไร แต่ผลกระทบไปแพร่ให้ลูก หลาน พ่อ แม่ ?แล้วต้องหยุดงาน กักตัว? และ ถ้าเกิดมีลองโควิด ที่ตามมา ?
- ถ้าดูสถิติ ประเทศอื่น อย่าดูแต่ จำนวนติดดูจำนวนเข้า โรงพยาบาล ข้อสำคัญ แต่ละประเทศ จำนวนเข้า รพ จะต่างกัน เพราะมีความต่างทั้ง ตัวเชื้อ ทั้งคน ทั้งการรักษาได้ทันที ที่ร้านขายยา แค่ไหน อย่างไร?
ดังนั้น ข้อสำคัญเราคงต้องดูข้อมูลเมืองไทยเป็นหลัก วันต่อวัน ถึงความรุนแรง และประเมิน”ต้นทุนตนเอง” “ถ้ามีอาการอย่าดูว่า 2 ขีด ค่อยกระตือรือร้น ค่อยแยกตัว ค่อยกินยา สายไปแล้ว แพร่ไปแล้วยาขณะนี้ ต้องกินเร็ว ทันทีที่มีอาการ ช้าไป ประสิทธิภาพลดลง เริ่มมีอาการ จัดการตัวเองเลย 2 ขีด มาเชื่องช้าได้แน่นอน” นพ.ธีระวัฒน์กล่าว
ปรับอาหารเข้าใกล้ มังสวิรัติหรือยัง?
ออกกำลัง ตากแดด หรือยัง?
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS