Connect with us

News

“อัจฉริยะ” จี้ ฟัน 2 ด.ต. ขายข้อมูลให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

Published

on

“อัจฉริยะ” ร้อง สอท. ฟัน 2 ด.ต.ขายข้อมูลปชช. ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท.ให้ดำเนินคดีกับดาบตำรวจ 2 นาย สังกัดกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดราชบุรี และเจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดกรมทหารสารวัตร สำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง หลังมีพฤติกรรมร่วมกับเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของครูเกษียณราชการ ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.เพื่อนำไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนสูญเงินจาก 7 บัญชี รวมกว่า 3 ล้าน 7 แสนบาท

นายอัจฉริยะ บอกว่า ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงิน จนต่อมาเกิดความสงสัยว่าแก๊งดังกล่าวได้ข้อมูลส่วนบุคคลมาได้อย่างไร จึงไปติดต่อกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ และพบว่ามีตำรวจ 2 นาย เข้าดูข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายก่อนที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะติดต่อมาไม่ถึง 20 นาที จึงเชื่อว่าตำรวจทั้ง 2 นายน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

ผู้เสียหายจึงได้ไปร้องต่อต้นสังกัดของตำรวจทั้ง 2 นายให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยกรณีที่จังหวัดราชบุรี ดาบตำรวจอ้างว่ามีทหารอากาศเป็นผู้สั่งการให้เข้าถึงข้อมูลผู้เสียหาย และคณะกรรมการมีมติว่าเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง และสั่งลงโทษกักขัง แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทราบว่า ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรีทราบเรื่องและได้เร่งรัดให้กักขังดาบตำรวจตามบทลงโทษ รวมถึงเร่งรัดให้จับกุมทหารอากาศที่เป็นผู้สั่งการมาดำเนินคดี

ส่วนกรณีของกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เบื้องต้นดาบตำรวจให้การว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สั่งให้เข้าถึงข้อมูลวันละ 30 ชื่อ แต่ผลการสอบสวนไม่ทราบแน่ชัด เพราะไม่มีการรายงานผลกลับมายังผู้เสียหาย แต่มั่นใจว่าดาบตำรวจทั้ง 2 นาย รวมถึงผู้ที่สั่งการ จะต้องเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างแน่นอน เพราะเป็นการเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ผ่านระบบของตำรวจ และเหตุเกิดช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน

ดังนั้นจึงขอให้ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร์ , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , และ ความผิดตาม พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ รวมถึงขยายผลตรวจสอบข้าราชการระดับสูงที่มีใบสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาลักลอบนำข้อมูลทะเบียนราษฎร์ไปขาย และตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด โดยเบื้องต้นทราบว่าเงินของผู้เสียหายถูกกดออกจากบัญชีธนาคารในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และบางส่วนโอนกลับมาที่ร้านวัสดุก่อสร้างในประเทศไทย แต่ก็ถูกกดเงินออกไปทั้งหมดแล้ว

ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ บอกว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปตรวจสอบข้อมูลหากพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: