“บิ๊กโจ๊ก” เรียกอดีตอธิบดีดีเอสไอ สอบปากคำวันนี้ ปมย้าย 27 จนท. เซ่นรีดเงินทุนจีน
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) เข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรู ว่า พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ถูกย้ายไปปฏิบัติราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าให้ปากคำในวันที่ 27 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรตำรวจ
สำหรับ ประเด็นการสอบสวน นพ.ไตรยฤทธิ์ พนักงานสอบสวนมุ่งสอบในทุกประเด็นสงสัย รวมทั้งประเด็นคำสั่งในการตั้งชุดปฏิบัติการด้านการข่าวของดีเอสไอ (ชปข.) ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ และเป็นชุดปฏิบัติการที่เข้าไปปฏิบัติการร่วมกับตำรวจ 191 ในการบุกเข้าไปค้นบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู กระทั่งมีการเรียกเงินคนจีนแลกกับการปล่อยตัว ว่ามีเหตุผลใดจึงมีการตั้งชุดเฉพาะกิจพิเศษดังกล่าวขึ้นมา และตั้งมาเพื่อปฏิบัติภารกิจด้านใด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า การตรวจค้นคอนโดย่านห้วยขวางเป็นวันเดียวกับที่ค้นบ้านพักสถานกงสุลนาอูรู ซึ่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่ 3 ราย อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยมีได้นำพระพุทธรูปออกมาจากห้องพักด้วย มีหลักฐานเป็นวงจรปิดชัดเจน การกระทำความผิดเข้าข่ายการลักทรัพย์และบุกรุก ส่วนจะเป็นการปล้นทรัพย์หรือไม่ต้องดูรายละเอียดพฤติการณ์อีกครั้ง
โดยยังพบข้อมูลอีกว่า ขณะเข้าตรวจค้นเจ้าของห้องพักไม่อยู่ และมาทราบภายหลังว่าเป็นห้องพักของอดีตกงสุลนาอูรู ที่ให้ครอบครัวใช้พักอาศัย สำหรับเจ้าหน้าที่ 3 รายที่ไปทำการตรวจค้นคอนโด ดังกล่าว คือ 1.นายตฤณ พิชิตกุญชร ผอ.ส่วนกลั่นกรองและการข่าวคดีพิเศษภาค 2.นายอนัน สีลาโคตร 3.นายอดิศร สนธิวรชัย ซึ่งทั้ง 3 รายเป็นเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอ และเป็น 3 ใน 5 รายที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ จะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
ขณะที่ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงนามคำสั่งดีเอสไอ ที่ 100/2566 เรื่อง ให้ข้าราชการปฏิบัติราชการเพื่อให้การบริหารงานบุคคล และการบริหารราชการของดีเอสไอเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ จึงมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติราชการ 27 ราย และมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง อาทิ
นายอังศุเกติ์ วิสุทธิวัฒนศักดิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษกองคดีความมั่นคง (ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง และปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามหนี้นอกระบบและอำนวยความเป็นธรรมอีกหน้าที่หนึ่ง) ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามหนี้นอกระบบและอำนวยความเป็นธรรม,
นายสุวพิชญ์ มโนภาส ผอ.ศูนย์ (พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ) ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ให้ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผอ.กองคดีความมั่นคง,
นายวิญญู มธุโรรส ผอ.ส่วน (พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ) ส่วนคดีการค้ามนุษย์ 2 กองคดีการค้ามนุษย์ (ปฏิบัติหน้าที่รอง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา) ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ส่วนคดีความเห็นแย้ง 3 กองบริหารคดีพิเศษ,
น.ส.อรุณศรี วิชชาวุธ ผอ.กลุ่ม (พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ) กลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ รอง ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ
น.ส.ญาณินี ปรีชาวิทย์ ผอ.ส่วน (พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ) ส่วนประชาสัมพันธ์สำนักงานเลขานุการกรม ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ส่วนพัฒนาความเชี่ยวชาญพิเศษ กองพัฒนาและสนับสนุนคดีพิเศษ
น.ส.วรกาญจน์ วงษ์ปาน ผอ.ส่วน (พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษส่วนสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง กลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ผอ.กลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล ฯลฯ
สำหรับ คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้เกิดขึ้น ภายหลัง พ.ต.ต.สุริยาได้มีการประชุมและมอบนโยบายให้กับบุคลากรทุกระดับชั้น ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ เพื่อจัดสรรบุคลากรให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน และเพื่อทำให้งานต่างๆ ภายในดีเอสไอดำเนินไปอย่างเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ สำหรับตำแหน่งส่วนใหญ่ที่ปรับย้ายครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่และพนักงานสอบสวน ที่ใกล้ชิดกับอธิบดีคนเก่า
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS
