หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ที่เพลงบางเพลงทำให้เรายิ้มได้ทั้งวัน หรือบางครั้งก็ทำให้น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะ ดนตรีมีผลโดยตรงต่อการทำงานของสมอง ทั้งในด้านอารมณ์ ความจำ และการเรียนรู้
ดนตรีกับสมองส่วนอารมณ์
เมื่อเราฟังเพลง สมองจะกระตุ้นการทำงานของระบบลิมบิก (Limbic System) ซึ่งควบคุมอารมณ์และความรู้สึก ทำให้เพลงสามารถเรียกทั้งความสุข ความเศร้า หรือความตื่นเต้นได้ทันที นอกจากนี้ การฟังเพลงที่เราชอบยังทำให้สมองหลั่ง โดปามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข คล้ายกับเวลาที่เรากินของอร่อยหรือทำกิจกรรมที่ชอบ
ดนตรีกับความจำ
เพลงมีพลังในการเชื่อมโยงกับความทรงจำ สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเก็บและดึงข้อมูล จะทำงานเมื่อเราได้ยินเพลงที่คุ้นเคย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเพลงเก่า ๆ ถึงทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์ในอดีตได้อย่างชัดเจน และบางงานวิจัยยังพบว่า การใช้ดนตรีช่วยกระตุ้นความจำของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ได้ด้วย
ดนตรีกับการเรียนรู้และสมาธิ
หลายคนชอบเปิดเพลงเบา ๆ ระหว่างอ่านหนังสือหรือทำงาน เพราะดนตรีบางประเภท เช่น เพลงบรรเลง หรือเพลงจังหวะสม่ำเสมอ สามารถช่วยให้สมองโฟกัสได้ดีขึ้น ลดความฟุ้งซ่าน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน งานวิจัยบางชิ้นยังชี้ว่า เด็กที่เรียนดนตรีมีพัฒนาการด้านภาษาและคณิตศาสตร์ดีกว่า เพราะการฝึกดนตรีช่วยกระตุ้นการเชื่อมต่อของเซลล์สมอง
ดนตรีกับการบำบัด
ดนตรีไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิง แต่ยังถูกนำมาใช้เป็น การบำบัด (Music Therapy) ในหลายกรณี เช่น ช่วยผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ลดความเครียดในผู้ป่วยเรื้อรัง หรือใช้เพื่อฟื้นฟูสมองในผู้ป่วยอัมพาต การฟังเพลงที่เหมาะสมยังช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตลดลงด้วย
บทสรุป
ดนตรีกับสมองมีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง เพลงที่เราฟังไม่ได้แค่ทำให้เพลิดเพลิน แต่ยังส่งผลต่อสารเคมีในสมอง ความจำ สมาธิ และสุขภาพจิต การใช้ดนตรีอย่างถูกวิธีสามารถช่วยให้เราเรียนรู้ได้ดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น และรักษาสมดุลทางอารมณ์ได้ดีขึ้นด้วย
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #ดนตรี #สมอง