5 กันยายน 2515 เกิดโศกนาฏกรรมที่เมืองมิวนิคเมื่อ สมาชิกกลุ่มกันยายนทมิฬของปาเลสไตน์ บุกเข้าไปสังหาร 2 นักกีฬาอิสราเอลพร้อมทั้งจับกุมโค้ชและนักกีฬาไว้เป็นตัวประกันอีก 9 คน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 1972 ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนีตะวันตก

เวลารุ่งสางของวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 1972 ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่เมืองมิวนิค
ประเทศเยอรมนีตะวันตก ในขณะนั้น สมาชิกกลุ่มกันยายนทมิฬของปาเลสไตน์ 8 คน
บุกเข้าไปในที่พักนักกีฬาของชาวอิสราเอล ในหมู่บ้านโอลิมปิก สังหารนักกีฬาชาวอิสราเอล 2 คน
และจับตัวประกัน 9 คน โดยเรียกร้องให้ อิสราเอล ปลดปล่อยนักโทษชาวปาเลนไตน์ 200 คน
อิสราเอลปฏิเสธข้อเรียกร้อง ตัวประกันทั้ง 9 คน ผู้ก่อการร้ายปาเลสไตน์ 5 คน
และตำรวจเยอรมนี 1 คน เสียชีวิตจากการยิงต่อสู้เพื่อช่วยเหลือตัวประกัน
หลังเกิดเหตุ นักกีฬาอิสราเอลที่เหลือเดินทางกลับประเทศทันที
แต่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกการแข่งขัน

กลุ่มกันยายนทมิฬเรียกปฏิบัติการนี้ว่า “Iqrit and Biram” สาเหตุเกิดมาจาก ก่อนหน้านั้น
หมู่บ้านของชาวคริสเตียนปาเลสไตน์ 2 แห่ง ถูกผลักดันขับไล่โดยกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล
ในช่วงสงครามอาหรับ-อิสราเอล ในปี 1948

หลังจากจับตัวประกันได้ไม่นาน ผู้บัญชาการของกลุ่มกันยายนทมิฬคือ Luttif Afif
ก็ส่งข้อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 234 คนในเรือนจำของอิสราเอล
รวมถึง ผู้ก่อตั้งกลุ่มกองทัพแดงที่เยอรมันตะวันตกจับกุมตัวเอาไว้
ได้แก่ Andreas Baader และ Ulrike Meinhof

รัฐบาลเยอรมันตะวันตก ปฏิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มกันยายนทมิฬ
โดยเลือกใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าช่วยเหลือตัวประกัน ในระหว่างที่ใช้ความพยายาม
ในช่วยเหลือชีวิตตัวประกัน ของทางการเยอรมัน สมาชิกกลุ่มกันยายนทมิฬ ถูกสังหารไป 5 คน
ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นยังเป็นเหตุให้ตัวประกันที่เหลือถูกสังหารจนหมด
รวมถึงตำรวจเยอรมันตะวันตกก็เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติการ 1 นาย
ผู้ที่รอดชีวิตสามคน Adnan Al-Gashey,Jamal Al-Gashey
และ Mohammed Safady ถูกติดตามจับกุมตัวได้ในภายหลัง

อย่างไรก็ตามหนึ่งเดือนถัดมา ก็เกิดเหตุการณ์จี้เครื่องบินของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า
เที่ยวบิน 615 เพื่อต่อรองกับรัฐบาลเยอรมันตะวันตก ให้ปล่อยตัวสมาชิกกันยายนทมิฬ 3 คน
ที่ถูกจับกุมตัวอยู่ โดยในที่สุด รัฐบาลเยอรมันตะวันตกยินยอมแลกเปลี่ยนตัวประกัน

ต่อมารัฐบาลอิสราเอลเปิดปฏิบัติการไล่ล่าสังหารสมาชิกกันยายนทมิฬที่เหลือรู้จักกันในชื่อ
Operation Wrath of God ในปฏิบัติการครั้งนี้อนุญาตให้สายลับ Mossad
ของอิสราเอลติดตาม ไล่ล่าสังหารผู้ที่เกี่ยวกับการสังหารหมู่นักกีฬาอิสราเอลที่มิวนิค