Connect with us

News

ปั้นยอดขายทะลุเป้า ด้วยการแบ่งกลุ่มลูกค้าแบบ RFM Analysis | MEWE | O2O

Published

on

MEWE เป็นระบบการอบรมที่มีติดตามผลได้แม่นยำ สามารถสร้างทีมขายให้แข็งแกร่ง ปิดการขายได้ดีขึ้น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และมีภาวะความเป็นผู้นำสำหรับผู้เป็นหัวหน้าทีมขายอีกด้วย ทั้งหมดนี้

สามารถทดลองใช้ระบบ เพื่อคุณภาพของทีมขายที่จะพาให้องค์กรไปสู่เป้าหมายตามที่วางไว้

การเเบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มๆ ตามพฤติกรรมที่แตกต่างกัน หรือที่เรียกว่าการทำ RFM Analysis นั้น เป็นการวางกลยุทธ์ในการสื่อสารกับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะลูกค้าทุกคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน การใช้โปรโมชั่นแบบเดิมๆซ้ำๆกันก็จะทำให้ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ๆได้ ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่ธุรกิจการขายสินค้าจะสามารถทำได้คือ การใช้เทคนิค RFM Analysis เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อให้สามารถระบุพฤติกรรม ความต้องการ และความสนใจของลูกค้าออกเป็นกลุ่มๆ ได้นั่นเอง และก่อนที่เราจะไปดูขั้นตอนการแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่มนั้น เรามาดูกันก่อนเลยว่า RFM Analysis คืออะไร และมีที่มาอย่างไร

RFM Analysis คืออะไร?

RFM Analysis คือ การวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าตามพฤติกรรมการใช้บริการ เพื่อพิจารณาว่ากลุ่มลูกค้านั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปต่อยอดในการวางแผนเข้าไปทำการตลาดต่อไป เพื่อให้เกิดยอดขายสูงสุด โดยระบบนี้จะสามารถวิเคราะห์ได้จาก 

  • Recency การซื้อครั้งล่าสุด 
  • Frequency ความถี่ในการซื้อ
  • Monetary จำนวนเงินที่ใช้จ่าย 

RFM Analysis มีที่มาอย่างไร?

RFM Analysis ได้ถูกคิดขึ้นมาในช่วงปี 1990 โดย Tom Wansbeek และ Jan Roelf Bult เพื่อใช้สำหรับธุรกิจจำพวกร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้า ซึ่ง RFM นั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการขายสินค้าออนไลน์ได้ อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการโทรขายสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ได้ด้วย โดยหลังจากระบบทำการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าตามหลัก RFM แล้ว จะทำการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 10 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าว มีดังนี้

  1. Champions : ลูกค้าที่เพิ่งซื้อไปไม่นานมานี้ อีกทั้งยังซื้อบ่อยและใช้จ่ายเยอะ
  2. Loyal customers : กลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ่อยครั้งและใช้จ่ายเยอะรองลงจาก Champions
  3. Need Attention : กลุ่มที่มีการใช้บริการมาสักระยะหนึ่ง เริ่มมีความห่างหายในการซื้อสิ้นค้า
  4. Small basket size : กลุ่มลูกค้าที่ใช้จ่ายไม่เยอะ แต่ซื้อบ่อย และเพิ่งซื้อไปไม่นาน
  5. Potential Loyalists : กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งซื้อไปไม่นาน ใช้จ่ายปานกลางถึงสูง และซื้อมากกว่า 1 ครั้ง
  6. New customers : กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งซื้อไปไม่นาน และซื้อสินค้าไม่บ่อย
  7. Promising : กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งซื้อไปไม่นาน และใช้จ่ายน้อย
  8. Long time big buy : กลุ่มลูกค้าที่ใช้จ่ายเยอะ แต่จะใช้จ่ายนานๆ ครั้ง
  9. At risk : กลุ่มลูกค้าที่ใช้จ่ายเยอะ แต่ซื้อสินค้าครั้งล่าสุดเมื่อนานมาแล้ว
  10. Hibernating : กลุ่มลูกค้าใช้จ่ายน้อย ซื้อไม่บ่อย และ ซื้อครั้งล่าสุดเมื่อนานมาแล้ว

การขายสินค้าจะตรงเป้ามากขึ้น ถ้าหากรู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เรากำลังพูดด้วยคือใคร การแบ่งกลุ่มลูกค้าจากพฤติกรรมการซื้อโดยใช้ RFM Analysis จะทำให้เราเข้าใจและสามารถเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการและพนักงานขายเข้าใจกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เนื่องจากลูกค้าแต่ละคนมีความสนใจในสินค้าที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังทำให้บริษัทสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า ทำให้สร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจได้อย่างชัดเจนได้มากขึ้นอีกด้วย 

การเข้าใจลูกค้าด้วยเทคนิคใหม่ ๆ สำหรับการสร้างยอดขาย ทำให้จะเพิ่มประสิทธิภาพของการขายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ระบบ MEWE จะเป็นคำตอบให้กับคุณ เป็นระบบการอบรมที่มีติดตามผลได้แม่นยำ สามารถสร้างทีมขายให้แข็งแกร่ง ปิดการขายได้ดีขึ้น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และมีภาวะความเป็นผู้นำสำหรับผู้เป็นหัวหน้าทีมขายอีกด้วย ทั้งหมดนี้สามารถทดลองใช้ระบบ MEWE เพื่อคุณภาพของทีมขายที่จะพาให้องค์กรไปสู่เป้าหมายตามที่วางไว้

ติดอาวุธ เสริมทักษะ ด้วยทฤษฏีที่ทันสมัย เพื่อให้พนักงานได้เข้าใจตนเอง เข้าใจลูกค้า ทำงานเป็นทีม และมีภาวะผู้นำ สนใจเรียนรู้หลักสูตรการขาย ด้วย Whole Brain ®Thinking แบบวัดกระบวนการคิด HBDI ® หรือทักษะด้านการขายอื่นๆ

ติดต่อ MEWE หรือ โทร : 0889636599 หรือ Line : @mmmewe

ติดตามเรา
Website : o2oforum
Facebook : o2oforum
Line : @o2oforum
Subscribe : o2oforum
Tel : 0970344225, 0970347554, 0970343220, 0952156145

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: