Connect with us

Sports

ปีศาจแดง ดวงหมด โดนทีม”สิงห์แดง”มิดเดิ้ลโบรห์ เขี่ยตกรอบ เอฟเอคัพ

Published

on

หลังจากเปิดบ้าน ทำได้แค่เสมอกับทีม”สิงห์แดง” 1-1 โดยต้องเล่นกันถึง 120 นาที ปีศาจแดง
เจ้าบ้านไม่ได้พกดวงลงสนาม อีลังก้า ยิงจุดโทษพลาด พ่ายทีมเยือนมิดเดิ้ลโบรห์ ไปด้วยสกอร์ 7-8

ศึกฟุตบอลเอฟเอคัพ อังกฤษ ฤดูกาล 2021/22 กลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
เป็นการลงสนามในรอบ 4 ทีม”ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ต้อนรับการมาเยือนของทีม”สิงห์แดง” มิดเดิ้ลสโบรห์ ทีมอันดับ 7 จากลีกแชมเปี้ยนชิพ

เจ้าบ้านปรับทีมเล็กน้อยได้พอล ป็อกบา กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งร่วมกับบรูโน่ เฟอร์นันเดส
สนับสนุนเกมส์รุกในแดนกลาง ส่งคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจดอน ซานโช่ และมาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นทัพหน้า
ทีมเยือนส่ง ฟาโลริน บาโลกัน กองหน้าดาวรุ่ง ที่เพิ่งยืมตัวมาจากทีมปืนใหญ่ ลงสนามเป็นหน้าเป้า
จับคู่กับอันดราซ ชโปราร์ ศูนย์หน้าดาวยิงจากสโลวีเนีย

เริ้มต้นเกมส์ในครึ่งแรก เจ้าถิ่นได้ลุ้นตั้งแต่ต้นเกมส์ โจ ลัมลี่ย์ นายทวารทีมเยือน วิ่งรับบอล
แล้วชนกับแนวรับ ดาเอล ฟราย บอลหลุดมือ มาเข้าทางคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฉกบอลมาครอง
ก่อนจะจ่ายบอลต่อไปให้เจดอน ซานโช่ ตักบอลโด่งเข้ามาหน้าปากประตู บอลชนคานกระดอน
มาถึงบรูโน่ เฟอร์นันเดส วิ่งมาสับไกยิง แต่บอลโด่งข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง

ถัดมาเจ้าถิ่นเดินหน้าบุกแหลก มีโอกาส พาบอลไปสร้างความหวาดเสียวอีกหลายหน
นาทีที่ 19 พอล ป็อกบา โดนทำฟาล์วล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงพลาด บอลพุ่งออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 25 บรูโน่ เฟอร์นันเดส เปิดบอลยาวมาจากกลางสนามถึงเจดอน ซานโช่ เกี่ยวบอลลงฟื้น
แล้วลากเลี้ยงเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะสับไกยิง บอลแฉลบโดนปลายเกือกของอิไซอาห์ โจนส์
เข้าไปกองที่ก้นตาข่าย เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เวลาที่เหลือ แม้เจ้าถิ่นจะเดินเกมส์บุกอย่างหนัก
แต่ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่ม จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ มิดเดิ้ลโบรห์ อยู่ 1-0

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเปิดเกมส์บุกเข้าแลกกันอย่างสนุก ทีมเยือนมีโอกาสพาบอลมาสร้างความหวาดเสียวให้ทีมเจ้าถิ่นได้บ้าง นาทีที่ 57 มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ส่งบอลออกไปทางขวาในเขตโทษ
ของเจ้าถิ่น อิไซอาห์ โจนส์ รับบอลแล้วจ่ายย้อนมาให้แม็ตต์ ครู้กส์ สับไกยิง แต่ดีน เฮนเดอร์สัน
นายทวารเจ้าถิ่น บินมาปัดบอลเอาไว้ได้ทัน

ถัดมาอีก 7 นาที ทีมเยือนได้โอกาสอีกครั้ง จากจังหวะ อิไซอาห์ โจนส์ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ามาในกรอบ
เขตโทษ ดันแคน วัตมอร์ จับบอลก่อน จ่ายต่อไปให้ แมตต์ ครูกส์ ได้สับไกยิงแบบเผาขน ส่งบอล
เข้าไปตุงตาข่าย ท่ามกลางเสียงประท้วงของผู้เล่นทีมปีศาจแดง ว่า วัตมอร์ ทำแฮนด์บอลชัดเจน
แต่ผู้ตัดสินในสนาม ก็ไม่ได้ริบประตูคืน ทีมเยือนได้ประตูตีเสมอ เป็น 1-1 ในนาทีที่ 64

เวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นแม้จะเดินหน้าบุกแหลก แต่ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่ม หมดเวลา 90 นาที เสมอกันไป 1-1
ต้องไปเล่นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แม้เจ้าถิ่นเดินหน้าทำเกมส์บุก
เข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนัก แต่จังหวะสุดท้ายไม่ดีพอที่จะได้ประตูเพิ่ม ในขณะที่ทีมเยือน ก็ตั้งรับ
กันได้เหนียวแน่นและไม่พลาดในจังหวะสำคัญ เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน 120 นาที
ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 1-1 ต้องตัดสินหาผู้ชน ะด้วยการดวลจุดโทษชี้ขาด

ช่วงดวลจุดโทษ ก็ยังต้องยิงกันแบบยืดเยื้อ เพราะเมื่อยิงกันครบ 5 คนแรก ยังไม่มีทีมไหนพลาด
ต้องยิงจุดโทษกันต่อแบบ”ซัดเด้นท์เดธ” ยิงกันมาจนถึงคนที่ 8 ทีมเยือน มิดเดิ้ลสโบรห์ ก็ยังไม่พลาด
คนที่ 8 ของทีมเจ้าถิ่นแอนโธนี่ อีลังก้า กองหน้าดาวรุ่ง ยิงจุดโทษไม่ดี บอลเหิรข้ามคานไปแบบหมดลุ้น
ทำให้ทีม “สิงห์แดง” มิดเดิ้ลสโบรห์ บุกมาเอาชนะ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการดวลจุดโทษ
ไปได้ด้วยสกอร์ 7-8 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป ส่วนทีมแมนฯ ยูไนเต็ด จอดป้าย
ฟุตบอลเอฟเอคัพในปีนี้ ที่รอบสี่เท่านั้น

ภาพจาก
Manchester United | Facebook
Middlesbrough FC | Facebook
Manchester United (@ManUtd) / Twitter
Middlesbrough FC (@Boro) / Twitter

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: