เรือใบสีฟ้า ทวง บัลลังก์จ่าฝูง คืนได้สำเร็จ หลังเปิดบ้าน ถล่ม ไบรท์ตัน ได้ในครึ่งหลัง 3-0

เกมส์ในครึ่งแรก เจ้าถิ่นพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปหลายหน ก่อนที่ ริยาด มาเรซห์ จะยิงประตู
แรกของเกมส์ได้ในครึ่งหลัง ก่อนที่จะมาได้อีก 2 ประตู ทำให้เมื่อจบเกมส์ แมนฯ ซิตี้ เอาชนะไปได้
ด้วยสกอร์ 3-0 ลงเตะไป 32 นัด มี 77 คะแนน แซง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดกลางสัปดาห์ ลงสนามเตะกันเมื่องกลางดึกของ
คืนวันพุธที่ 20 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ทีม”เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งตอนนี้ตกลงมาเป็น
รองจ่าฝูง หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ก่อนหน้านี้ ทำให้มีคะแนน
แซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง เกมส์ในนัดนี้ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือน
ของทีม เจ้านกนางนวล ไบรท์ตัน แอนด์ ฮอฟ อัลเบี้ยน ทีมอันดับกลางในตารางพรีเมียร์ลีก
โดยเกมส์ในนัดนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสมองเพชรของทีมแมนฯ ซิตี้ ส่งจอมทัพอย่าง

เควิน เดอ บรอยน์ ลงสนามได้อีกครั้ง มี เอแดร์ซอน โมราเอส ยืนเฝ้าเสา 4 แผงหลังมี เฌา กานเซโล่,
จอห์น สโตนส์,อายเมริค ลาปอร์กต์ และ นาธาน อาเก้ 3 แดนกลางมี โรดริโก้ เฮอร์นานเดซ,อิลคาย
กุนโดกัน และ เควิน เดอ บรอยน์ สามประสารในแดนหน้า มี แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยืนเป็นหน้าเป้า
ริยาด มาห์เรซ และ ฟิล โฟเด้น คอยช่วยเติมเกมส์รุก

ส่วนทีมเยือน ฟอร์มกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง 2 นัดหลังสุดเอาชนะทีมใหญ่อย่างอาร์เซน่อล และ
สเปอร์มาได้ โดยเกมส์ในนัดนี้ เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือของทีม เจ้านกนางนวล ส่งทีมชุดที่ดีที่สุด
ลงสนาม มี โรเบิร์ต ซานเชซ ยืนเฝ้าเสา 3 แผงหลังมี โญเอล เฟลท์มัน,ลูว์อิส ดังค์และมาร์ค กูกูเรญ่า
แผงกองกลาง มี ทาริค แลมพ์ตี้ย์, โมย์เซส ไคเซโด้,โซโลมอน มาร์ช,เอน็อค เอ็มเวปู และ
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ คู่หน้าเป้าเป็น ปาสคาล โกรสส์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค

เริ่มเกมส์ในครึ่งแรก เจ้าถิ่นเปิดฉากเดินหน้าทำเกมส์บุกเข้ากดดันตั้งแต่ต้นเกมส์ แต่จังหวะเข้าทำ
ยังขาดๆเกิน โอกาสพาบอลเข้าไปยิงตรงกรอบแทบไม่มี กว่าจะมีโอกาสได้ลุ้นประตู ก็ต้องรอจนผ่าน
ครึ่งทางของครึ่งแรกไปแล้ว ในนาทีที่ 26 เควิน เดอ บรอยน์ ต่อบอลชิ่งกับ ฟิล โฟเด้น ก่อนจะ
สับไกยิง จากนอกกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย บอลเฉี่ยวเสานิดเดียวแล้วออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

จังหวะถัดมา ฟิล โฟเด้น จ่ายบอลเข้ากลางไปให้ เควิน เดอ บรอยน์ รับบอลแล้วจ่ายต่อ
ออกไปทางขวา แบร์นาร์โด้ ซิลวา โยกพาบอลตัดเข้ากลางแล้วสับไกยิง บอลพุ่งกำลังจะเข้าเสียบ
สามเหลี่ยมมุมบนของกรอบประตู แต่ โรเบิร์ต ซานเชซ นายทวารของทีมเยือน บินมาปัดบอลเอาไว้ได้
ไบรท์ตัน รอดพ้นการเสียประตูอย่างหวุดหวิด

หลังจากโดนบุกมาตั้งแต่ต้นเกมส์ ทีมเจ้านกนางนวล เริ่มมีโอกาส พาบอลบุกเข้ามากดดันเจ้าถิ่นบ้าง
แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังไม่สามารถฝ่าแนวรับของทีมเรือใบ เข้าไปสร้างความหวาดเสียวให้แก่เจ้าถิ่น
ได้มากนัก หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นยังเดินหน้าบุกกดดันเหมือนเดิม นาทีที่ 53 อิลคาย กุนโดกัน สกัดบอลได้
ในแดนตัวเองแล้วจ่ายขึ้นหน้าไปให้ เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลลากหนีตัวประกบ ก่อนจะจ่ายบอลเลียด
เข้าไปในเขตโทษ มาร์ค กูกูเรญ่า ซึ่งพยายามเข้ามาสกัดบอล แต่บอลกระดอนไปโดนพวกเดียวกัน
ไปเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาฉกบอล แล้วสับไกยิงเฉือนๆ บอลแฉลบปลายเท้า โญเอล เฟลท์มัน
ลอยเข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 53

นาทีที่ 59 ไบรท์ตันได้ลูกเตะมุม เปิดบอลเข้ามาหน้าปากประตู แดนนี่ เวลเบ็ค ได้ขึ้นโหม่ง แต่บอล
ไปเข้ามือนายทวารทีมเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบายๆ

นาทีที่ 65 เจ้าถิ่นได้เปิดบอลจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ เปิดบอลเลียดย้อนกลับมาให้
ฟิล โฟเด้น รับบอลแล้วสับไกยิงจากระยะไกล บอลแฉลบ เอ็มเวปู เปลี่ยนทางเข้าไปกองที่ก้นตาข่าย
ทีมเรือใบสีฟ้า ได้ประตูขึ้นนำห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 65

ท้ายเกมส์ นาทีที่ 82 โรเบิร์ต ซานเชซ ถูกกดดันจากกองหน้าเจ้าถิ่น ออกบอลยาวมาให้เพื่อน
แต่โดนโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กระโดดสกัด บอลกระดอนมาถึงเควิน เดอ บรอยน์ จ่าย
บอลขึ้นหน้าเข้าไปในกรอบ แบร์นาร์โด้ ซิลวา สับไกยิงด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
จบเกมส์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ไบรท์ตัน ไปได้ด้วยสกอร์ 3-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ
มี 77 แต้ม ทวงตำแหน่งจ่าคืนมาได้สำเร็จ โดยกลับไปมีคะแนนนำหน้า ลิเวอร์พูล อยู่หนึ่งคะแนน

ภาพจาก
https://twitter.com/ManCity
https://twitter.com/OfficialBHAFC