แอมานุแอล มาครง ได้รับเลือกให้ เป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศส อีกหนึ่งสมัย หลังการเลือกตั้งครั้งที่สอง ได้คะแนนนำห่าง มารีน เลอ แปน ขาดลอย

เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่มีผู้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสองสมัยติดๆกัน
นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดี ฌัค ชีรัค ซึ่งได้รับเลือกกลับมาอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2002

เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 08.00 น.การเลือกตั้งประธานาธิบดี
ฝรั่งเศส รอบที่ 2 ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากในครั้งแรก ยังไม่สามารถหาผู้ชนะการเลือกตั้ง
ที่มีคะแนนนำอย่างขาดลอยตามเกณฑ์ โดยคูหาเลือกตั้งจะเปิดให้ประชาชนเริ่มมาลงคะแนน
ตั้งแต่ 08.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
โดยกอนหน้านี้ จากผลของโพลสำรวจความนิยมก่อนวันเลือกตั้งพบว่า แอมานุแอล มาครง
มีคะแนนนำเหนือคู่แข่งอย่าง มารีน เลอแปน เล็กน้อย

เมื่อถึงเวลาปิดหีบเลือกตั้งนับคะแนน ปรากฏว่า แอมานุแอล มาครง ได้รับคะแนนนำห่างจากคู่แข่งอย่าง
มารีน เลอแปน ไม่มากนัก ราวๆ 58 ต่อ 42 เปอร์เซนต์

แอมานุแอล มาครง เป็นนักการเมืองจากพรรคสายกลาง La République En Marche ! หรือเรียก
แบบย่อๆว่า En Marche ! ซึ่งมี นโยบายหลักคือ สนันสนุนให้ฝรั่งเศสเป็นสมาชิกของ อียู (EU) ต่อไป
โดยเฉพาะประธานาธิบดีเอ็มมานุแอล มาครง ที่แสดงจุดยืนต้องการทำให้ อียู กลับมาแข็งแกร่ง
มากกว่าเดิม รวมถึงต้องการผลักดันให้ ฝรั่งเศส มีความก้าวหน้าแบบโลกาภิวัตน์
เป็นหัวหอกของสหภาพยุโรป ซึ่งต่างจาก มารีน เลอ แปน อย่างชัดเจน โดย เลอ แปน
เน้นที่การแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ มีนโยบายสุดโต่งในการต่อต้านผู้อพยพ ปกป้องชาวคริสต์
และคนผิวขาว โดย เลอ แปน เคยประกาศว่า พร้อมนำ ปารีส ออกจากการเป็นสมาชิกของ นาโต้
หากได้รับเลือกตั้ง รวมถึงข่าวลือในเรื่องความใกล้ชิด กับผู้นำของรัสเซีย คนปัจจุบัน วลาดิเมียร์ ปูติน

ภายหลังการประกาศผลคะแนนการเลือกตั้ง อย่างไม่เป็นทางการ ได้มีพิธีประกาศชัยชนะ ผ่านจอ
โปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ ที่สวนสาธารณะ ช็อมป์ เดอ มาร์ส (Champ de Mars) ใจกลางกรุงปารีส
ข้างๆหอไอเฟล ท่ามกลางประชาชนผู้สนับสนุน แอมานุแอล มาครง

ส่วน มารีน เลอ แปน ได้ประกาศยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยมีแผนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง
สมาชิกรัฐสภา ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน นี้

มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า บรรดาผู้นำของชาติในสหภาพยุโรป ได้ออกมาแสดงความยินดีกับ
แอมานุแอล มาครง สำหรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่ ยินดี และโล่งใจที่ มาครง
ได้รับเลือกตั้งให้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
รวมถึง นาย บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี แห่ง สหราชอาณาจักร
ก็ออกมาแสดงยินดีกับผลการเลือกตั้งโดยระบุว่า
“ฝรั่งเศสคือหนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดและสำคัญที่สุดของเรา”