Connect with us

Health

ระบบดูแลสุขภาพป้องกันก่อนป่วยของญี่ปุ่น: ทำไมผู้สูงอายุถึงแข็งแรงแม้อายุมากกว่าหลายประเทศแต่ใช้โรงพยาบาลน้อยกว่า

Published

on

ความลับสำคัญของสุขภาพผู้สูงอายุญี่ปุ่นไม่ใช่การรักษาเมื่อป่วย แต่เป็น “ระบบป้องกันก่อนเกิดโรค” ที่ประเทศสร้างมานานกว่า 40 ปี ทำให้ผู้สูงอายุแข็งแรงแม้อายุเฉลี่ยสูงถึง 84–87 ปี

ระบบนี้ประกอบด้วยการตรวจสุขภาพเชิงรุก การประเมินความเสี่ยงรายบุคคล การจัดคลาสฟื้นฟูในชุมชน และการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพแบบละเอียดมากจนสามารถคาดการณ์โรคได้ก่อนเกิด 5–10 ปี


1) โครงสร้าง Ningen Dock – ระบบตรวจสุขภาพแบบละเอียดระดับประเทศ

Ningen Dock (人間ドック) คือโปรแกรมตรวจสุขภาพที่ลึกกว่าการตรวจประจำปีทั่วไป เช่น

  • สแกน CT
  • อัลตราซาวด์ช่องท้อง
  • ตรวจหลอดเลือด
  • ตรวจมวลกระดูก
  • ตรวจสมดุลร่างกาย
  • ตรวจเปอร์เซ็นต์ไขมันอวัยวะภายใน
  • ตรวจภูมิคุ้มกัน

ผู้สูงอายุญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดได้รับการตรวจประจำปีแบบมีมาตรฐานกลาง ทำให้โรคเรื้อรังถูกเจอเร็วมากก่อนลุกลาม

เมืองที่เด่น: โยโกฮาม่า

โยโกฮาม่ามีศูนย์ Ningen Dock ขนาดใหญ่จำนวนหลายแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลที่เชื่อมข้อมูลกับคลินิกชุมชน การติดตามผู้สูงอายุทำได้ลึกถึงระดับพฤติกรรมประจำวัน เช่น รูปแบบการเดินในแต่ละสัปดาห์


2) ระบบ Kenkou Nippon 21 – แผนสุขภาพชาติที่เข้มที่สุดในเอเชีย

นี่คือแผนยุทธศาสตร์สุขภาพระดับชาติที่ตั้งเป้า

  • ลดผู้ป่วยเบาหวาน
  • ลดผู้ป่วยความดันสูง
  • ลดภาวะหลอดเลือดแข็ง
  • เพิ่มอายุสุขภาพ (Healthy Life Expectancy)
  • ลดจำนวนการนอนโรงพยาบาล

ผลคือโรงพยาบาลต้องทำงานร่วมกับชุมชน เช่น

  • ส่งนักโภชนาการไปสอนทำอาหารในหมู่บ้าน
  • จัดคลาสเดินเร็ว
  • ฝึกบริหารสำหรับผู้สูงอายุ
  • ติดตามค่าความดันที่บ้าน

3) การใช้เทคโนโลยีติดตามสุขภาพผู้สูงอายุอย่างละเอียด

ญี่ปุ่นใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อติดตามผู้สูงอายุ เช่น

  • สายนาฬิกาวัดหัวใจ
  • แอปบันทึกค่าเดินต่อวัน
  • อุปกรณ์วัดน้ำตาลแบบไม่เจาะเลือด
  • ระบบเตือนถ้าหกล้ม

เมืองที่เด่นเรื่องนี้: ฟุกุชิมะ
หลังเหตุการณ์สึนามิ ฟุกุชิมะเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ลงทุนเทคโนโลยีสุขภาพมากที่สุด โดยทำระบบติดตามสุขภาพผู้สูงอายุในระดับหมู่บ้าน ทุกคนมีแฟ้มข้อมูลสุขภาพที่อัปเดตปีต่อปี


4) ระบบป้องกัน “ล้ม – กล้ามเนื้ออ่อนแรง – สมองเสื่อม” ทำก่อนเกิดอาการ

ญี่ปุ่นมีโปรแกรมป้องกัน Frailty (ภาวะเปราะบาง) ที่ออกแบบมาชัดเจน เช่น

  • แบบทดสอบความเร็วเดิน
  • วัดแรงบีบมือ (Grip Strength)
  • ประเมินการยกขาฝั่งเดียว
  • ประเมินสมดุลในท่ายืนแคบ
  • ตรวจความเร็วประมวลผลของสมอง

หากพบความเสี่ยงแม้เพียงเล็กน้อย ผู้สูงอายุจะถูกส่งไปเข้าคลาสเฉพาะ เช่น

  • คลาสบริหารข้อเข่า
  • คลาสฝึกสมดุล
  • คลาสกระตุ้นสมองแบบ Cognitive Training

เมืองที่ทำระบบนี้ดีที่สุด: โคเบะ

โคเบะมีโปรแกรมป้องกันผู้สูงอายุล้มที่เข้มมาก ประเมินผู้สูงอายุทุกปี และมีคลาสออกกำลังกายเช้า–เย็นในศูนย์ชุมชน


5) ระบบแพทย์ประจำครอบครัวที่ติดตามผู้สูงอายุแบบตัวต่อตัว

แพทย์ทั่วไปในญี่ปุ่น (GP) มีบทบาทหนักมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ

  • ติดตามประวัติสุขภาพยาว 10–20 ปี
  • รู้พฤติกรรมการใช้ชีวิต
  • ให้คำแนะนำรายบุคคล
  • ปรับยาแบบละเอียด
  • นัดตรวจเป็นรอบที่สม่ำเสมอมาก (เดือนละ 1 ครั้งเป็นเรื่องปกติ)

เมืองที่เด่นเรื่องระบบนี้: ซัปโปโร
ซัปโปโรมีคลินิกขนาดเล็กจำนวนมาก และผู้สูงอายุจะเลือกแพทย์ประจำตัวที่คอยติดตามแบบเจาะลึกจนแทบไม่ต้องไปโรงพยาบาลใหญ่


6) การเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระดับประเทศครบวงจร

ญี่ปุ่นใช้ระบบร่วมระหว่าง

  • โรงพยาบาล
  • คลินิก
  • ศูนย์ชุมชน
  • หน่วยงานท้องถิ่น
  • บริษัทประกันสุขภาพ

ข้อมูลถูกเชื่อมแบบไร้รอยต่อ ทำให้

  • ประเมินความเสี่ยงของผู้สูงอายุรายบุคคลได้
  • เตือนก่อนป่วยจริง
  • เห็นผลลัพธ์ของการรักษาแบบเรียลไทม์
  • วางแผนฟื้นฟูเฉพาะบุคคลได้ดีมาก

ตัวอย่างที่เด่นชัด: จังหวัดอากิตะ
อากิตะใช้ฐานข้อมูลสุขภาพระดับจังหวัด เพื่อติดตามผู้สูงอายุทุกคนในพื้นที่ ทำให้สามารถลดอัตราโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุลงได้ชัดเจนในช่วงสิบปีที่ผ่านมา


7) รัฐบาลท้องถิ่นมีโปรแกรมฟื้นฟูเฉพาะกลุ่มโรค

ญี่ปุ่นมีคลินิกฟื้นฟูเฉพาะกลุ่ม เช่น

  • ฟื้นฟูโรคข้อเข่า
  • ฟื้นฟูหลังผ่าตัด
  • ฟื้นฟูปอด
  • ฟื้นฟูหลังหลอดเลือดสมอง
  • ฟื้นฟูการทรงตัว

ระบบเหล่านี้ทำให้ผู้สูงอายุฟื้นตัวเร็วมากและกลับไปเดินเองได้แทบทั้งหมด

เมืองเด่น: ฮิโรชิม่า
ฮิโรชิม่ามีคลินิกฟื้นฟหลายแห่ง และใช้ระบบฟื้นฟูร่วมกับศูนย์ชุมชน ผู้สูงอายุไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลนานเกินจำเป็น


สรุป

ญี่ปุ่นแข็งแรงแม้อายุเยอะเพราะเขามีระบบป้องกันแบบรอบด้าน

  • ตรวจสุขภาพลึกกว่า
  • ติดตามต่อเนื่อง
  • ป้องกันก่อนเกิดโรค
  • เชื่อมระบบข้อมูลแบบละเอียด
  • มีคลาสฟื้นฟูในทุกชุมชน
  • ใช้เทคโนโลยีช่วยติดตามความเสี่ยง

ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้สูงอายุญี่ปุ่นไม่เพียงแค่ “อายุยืน” แต่ อายุยืนอย่างมีคุณภาพ เดินได้ ทำงานได้ ดูแลตัวเองได้ และแทบไม่ต้องนอนโรงพยาบาลนาน

อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา

Line Today TOJO NEWS , ToJoNews

#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #สุขภาพ #Longevity

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: