หลายคนเริ่มเล่นเวทจากเป้าหมายที่ต่างกัน บางคนอยากแข็งแรง บางคนอยากลดไขมัน บางคนอยากปรับทรงให้ดูดีขึ้น แต่ไม่ว่าเริ่มต้นจากอะไร เรามักจะได้ยินประโยคเดียวกันเสมอว่า “ต้องเจ็บถึงจะได้ผล” เหมือนเป็นสูตรตายตัวของวงการฟิตเนสที่ถูกส่งต่อกันแบบไม่มีใครถามว่ามันจริงแค่ไหน
ความเจ็บหลังซ้อมที่เราเรียกว่า DOMS (ปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย) จริงๆ แล้วมันเป็นเพียง “ผลข้างเคียง” จากการที่กล้ามเนื้อถูกใช้งานมากกว่าปกติ ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการออกกำลังกายแต่อย่างใด ถ้าวันไหนไม่เจ็บ ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ผล และถ้าวันไหนเจ็บมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าร่างกำลังพัฒนาอย่างยอดเยี่ยม บางทีร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนว่า “มันเกินไปแล้วนะ”
ความเข้าใจผิดคือเรามักคิดว่า ความเจ็บ = ความคืบหน้า ทั้งที่สิ่งที่คืบหน้าจริงๆ คือ ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งวัดจากการควบคุมท่าดีขึ้น ยกน้ำหนักได้ดีขึ้น เหนื่อยน้อยลงในท่าเดิม หรือแม้แต่แค่รู้สึกว่า “ร่างกายต่อต้านน้อยลง” ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่จากการปวดกล้ามเนื้อหนักๆ ทุกครั้งหลังซ้อม
ปัญหาคือ เมื่อเราเชื่อว่า “เจ็บคือต้องดี” เราจะเริ่มผลักตัวเองเกินความจำเป็น เราเพิ่มน้ำหนักเร็วเกินไป เราไม่สนใจรูปแบบท่า เราไม่ให้เวลาร่างกายพักฟื้น และเราจะเริ่มซ้อมในวันที่ร่างกายกำลังล้าโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสิ่งที่ตามมาคืออาการบาดเจ็บแบบเรื้อรัง โดยเฉพาะแถวหัวไหล่ หลังล่าง และเข่า เจ็บทีหนึ่ง บางครั้งไม่ใช่เรื่องของวันนี้ แต่เป็นเรื่องยาวเป็นเดือน เป็นปี
จริงๆ แล้ว เล่นเวทให้ได้ผลระยะยาวคือ ใช้แรงพอดี + รูปแบบท่าที่ดี + เวลาพักที่เหมาะสม ข้อที่หลายคนมองข้ามคือน้ำหนัก “พอดี” นี่แหละ เพราะคำว่า “พอดี” ในแต่ละวันมันไม่เท่ากัน บางวันนอนดี พลังมาเต็ม บางวันนอนแย่ ทำงานเครียด ก็ไม่มีแรงเท่าวันก่อน และนั่นปกติ อย่าตีความว่าแรงตก = แย่ แค่ร่างกายกำลังบอกว่า “วันนี้ขอเบากว่านิดหนึ่ง”
ความสม่ำเสมอต่างหากที่ทำให้เห็นผล ไม่ใช่ความปวด ถ้าทำท่าถูก ทำสม่ำเสมอ ต่อให้ไม่ปวดเลย ก็พัฒนาได้ และโตได้ดีด้วย เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้อยากเจ็บ มันแค่อยากถูกใช้งานแบบที่ร่างกายรับไหว และฟื้นตัวได้ทัน
บางทีที่เราคิดว่าเรายังพัฒนาไม่พอ ไม่ใช่เพราะเรายังซ้อมไม่หนักพอ แต่อาจเพราะเราซ้อมหนักเกินไปจนร่างกาย “ไม่มีโอกาสได้โต” ต่างหาก การเจ็บซ้ำซากจะทำให้เราหยุดซ้อมไปในที่สุด แต่การดูแลตัวเองให้ฟื้นได้ดี จะทำให้เราเล่นไปได้นาน และนั่นแหละคือความหมายจริงของการพัฒนาระยะยาว
เราไม่ได้ต้องเก่งขึ้นทุกวัน
แค่ไม่ทำให้ร่างกายต้อง “ซ่อมความเสียหาย” มากกว่าที่มันจะพัฒนา
เท่านี้ก็ไปได้ไกลแล้ว
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #สุขภาพ #Longevity