บางวันเราก็ไม่ได้เหนื่อยเพราะทำอะไรหนักเป็นพิเศษ แต่แค่รู้สึกว่า “วันนี้ข้างในมันหนัก” แบบไม่มีรูปธรรมว่าจะอธิบายให้ใครฟังยังไง เหมือนใจเราค่อยๆ รั่วออกทีละนิด ทั้งที่ข้างนอกดูเหมือนปกติ
หลายคนโตมาในระบบที่สอนว่า “ต้องเข้มแข็ง”
ต้องเก่ง ต้องไหว ต้องจัดการได้ ต้องไม่อ่อนแอ ต้องเดินต่อ
จนบางทีเราไม่ทันรู้เลยว่า เรากำลังบังคับตัวเองให้แข็ง มากกว่าดูแลตัวเองให้ดี
ความเข้มแข็งจริงๆ ไม่ใช่การฝืน แต่คือการรู้ว่า ตอนไหนควรพัก
และพักยังไงโดยไม่รู้สึกผิด
เพราะบางวันใจไม่ได้ต้องการกำลังใจ
มันแค่ต้องการ พื้นที่ที่ไม่ต้องพิสูจน์อะไรให้ใครดู
แล้วจะดูแลใจในวันที่ไม่ไหวยังไง แบบที่ไม่ต้องพยายามมาก?
1) พูดความจริงกับตัวเองก่อน
ไม่ต้องทำตัวให้เก่ง
ไม่ต้องบอกว่าโอเค
บอกแค่ว่า “วันนี้รู้สึกเหนื่อยหน่อย”
แค่นี้สมองก็หยุดโหมดป้องกันตัวแล้ว
2) ลดความเร็วลง ไม่ต้องหยุดทุกอย่าง
ไม่ต้องปิดโลก ไม่ต้องหายไป
แค่ลดความเร็วลงครึ่งจังหวะ
เหมือนหายใจออกช้ากว่าเดิมหน่อย
3) ทำอะไรที่ “ง่ายและคุ้นเคย” เท่านั้น
วันที่ใจล้าไม่ใช่วันที่ต้องเริ่มอะไรใหม่
แต่คือวันที่ควรกลับไปหาสิ่งที่ทำแล้วรู้สึกว่า “โอเคเสมอ”
อาจเป็นเพลงเดิม ร้านเดิม เพื่อนเดิม เส้นทางเดินเดิม
4) อย่าพยายามอธิบายตัวเองให้คนที่ไม่เข้าใจ
การอธิบายความรู้สึกให้ผิดคนมันทำให้เหนื่อยกว่าเดิม
เลือกคุยกับคนที่ “ฟังเป็น” ไม่ใช่แค่ “ตอบเป็น”
5) ถ้าร้องได้ ก็ร้อง
ไม่ได้แปลว่าเราแพ้
มันคือการระบายความตึงที่เก็บไว้เฉยๆ
สิ่งสำคัญคือ “ใจไม่ต้องดีทุกวัน”
การมีบางวันท้อ บางวันไม่อยากลุกไปไหน บางวันเฉยๆ กับโลก ไม่ได้แปลว่าเรากำลังถอยหลัง
มันแปลว่า เราเป็นมนุษย์
ไม่มีใครรู้สึกเข้มแข็งได้ตลอด
ต่อให้คนที่ดูมั่นคงที่สุดก็ยังมีวันที่ใจมันล้า
ต่างกันแค่ใครยอมรับมัน และใครพยายามหลบมัน
การยอมรับตัวเองในวันที่ไม่ไหว ทำให้เรากลับมาไหวได้เร็วกว่า
เพราะเราไม่ได้เสียพลังไปกับการ “แกล้งว่าโอเค”
ปิดท้าย
เราไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งทุกวัน
และเราไม่ต้องพยายามเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดตลอดเวลา
สิ่งที่ทำให้ไปต่อได้ไม่ใช่ความพยายามแบบไม่หยุดพัก
แต่คือ การรู้ว่าตอนนี้ใจต้องการอะไร แล้วให้มันอย่างพอดี
บางวันสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้
ไม่ใช่พัฒนา
แต่คือ ไม่ทำร้ายตัวเองเพิ่ม
และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับวันนี้
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #สุขภาพ #Longevity