หลังได้รับเลือกให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค จากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม ของอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ หรือ แมรี่ เอลิซาเบท ทรัสส์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ มาตั้งแต่ปี 2021 โดยก่อนหน้านั้น เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสตรีและความเท่าเทียม ในปี 2019 กำลังจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของอังกฤษ
ลิซ ทรัสส์ เป็นสมาชิกสภา จากนอร์โฟล์คตะวันตกเฉียงใต้มาตั้งแต่ 2010 เคนร่วมอยู่ในรัฐบาลของเดวิด คาเมรอน เทเรซา เมย์ และบอริส จอห์นสัน
แมรี่ เอลิซาเบท ทรัสส์ ศึกษาจบจากวิทยาลัยเมอร์ตัน ในออกซ์ฟอร์ด สมัยเรียนเคยเป็นประธานของพรรคเสรีประชาธิปไตย ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เมื่อจบการศึกษาในปี 1996 ก็เข้าร่วมงานกับพรรคอนุรักษนิยม ในขณะเดียวกันก็ทำงานประจำที่บริษัทเชลล์ เคเบิล แอนด์ ไวร์เลส ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายปรับโครงสร้างใหม่ของบริษัท
ลิซ ทรัสส์ เข้ามาเป็นสมาชิกสภา จากการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2010 แม้จะเป็นสมาชิกสภาหน้าใหม่ แต่เธอมีบทบาทในการปฏิรูประบบสุขอนามัยเด็ก การศึกษาวิชาคณิตศาสตร์ รวมทั้ง การปฏิรูปเศรษฐกิจ ลิซ ทรัสส์ เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม สส. อิสระ ของพรรคอนุรักษนิยม มีผลงานเขียนหนังสือออกมาหลายเล่ม อย่างเช่น After the Coalition (2011) และ Britannia Unchained (2012)
ระหว่างปี 2012-2014 ลิซ ทรัสส์ ได้ทำงานเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยาวชนและการศึกษา ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม ในสมัยของเดวิด คาเมรอน ในการปรับคณะรัฐมนตรี ในปี 2014
เมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาใหม่ในปี 2017 ลิซ ทรัสส์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีคลัง หลังจาก เทเรซา เมย์ ประกาศลาออกในปี 2019 ลิซ ทรัสส์ ได้สนับสนุนให้ บอริส จอห์นสัน ขึ้นเป็นผู้นำพรรคอนุรักษนิยม ต่อมาเขาก็แต่งตั้งให้เธอเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ และปรับย้ายมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแทน โดมินิก แรบ ในปี 2021 นอกจากนี้ ลิซ ทรัสส์ ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นนักเจรจาในเวทียุโรป-สหราชอาณาจักร อีกด้วย
หลังจากบอริส จอห์นสัน ประกาศลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ลิซ ทรัสส์ ก็กลายเป็นหนึ่งในตัวเก็งที่จะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม
โดยก่อนที่จะทราบผลการเลือกหัวกน้าพรรคอนุรักษ์นิยม ลิซ ทรัสส์ ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะมีมาตรการจัดการกับปัญหาค่าพลังงานพุ่งสูงขึ้นในทันที
โดย ลิซ ทรัสส์ ระบุในบทความซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ซันเดย์ เทเลกราฟ หนึ่งวันก่อนที่จะมีการประกาศชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่แทนบอริส จอห์นสัน โดยย้ำคำมั่นสัญญา ในการจัดการขั้นเด็ดขาดกับเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเผชิญอัตราเงินเฟ้อเป็นตัวเลข 2 หลักและแนวโน้มภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ
ว่าที่ผู้นำคนใหม่อังกฤษเสริมว่า “ถ้าได้รับเลือก คณะบริหารชุดใหม่มีแผนกำหนดมาตรการจัดการปัญหาค่าใช้จ่ายและอุปทานด้านพลังงานทันที” และย้ำว่า รัฐมนตรีคลังคนใหม่จะเปิดเผยแผนการทางการคลังในช่วงปลายเดือน ซึ่งจะประกอบด้วยมาตรการดำเนินการด้านเศรษฐกิจที่ครอบคลุม
ทรัสส์ ยังระบุอีกว่า แนวทางของเธอจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนคือ
- มาตรการเร่งด่วนเฉพาะหน้าเพื่อจัดการวิกฤตค่าครองชีพและแผนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ
- เตรียมแต่งตั้งสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจเพื่อให้ได้แนวคิดที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ
ลิซ กล่าวว่า อังกฤษต้องใช้การตัดสินใจอย่างยากลำบากเพื่อให้แน่ใจว่า ประเทศจะไม่เผชิญสภาวะเช่นนี้อีก ในทุกๆฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาว
ทรัสส์ เสริมว่า การแก้ปัญหาแค่ชั่วคราว และการรั้งรอหรือหลีกเลี่ยงที่จะแก้ปัญหา ไม่ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลาย และเธอพร้อมตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ