สำนักข่าวโตโจ้นิวส์รายงาน หลายๆ ประเทศเริ่มมีการพิจารณาทดลองให้พนักงานในบริษัทต่างๆ ทำงานเพียง 4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อที่จะสร้าง work life balance และเพื่อเป็นการตอบโจทย์กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ด้วยเช่นกัน
หลังการเกิดการระบาดของ COVID-19 ทำให้ในหลายประเทศเริ่มหันมาพิจารณานโยบายการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มากขึ้น และเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประเทศสเปนก็ได้ประกาศปรับวันทำงานให้เหลือเพียง 4 วัน หรือ 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 ปีต่อจากนี้ไป เพื่อที่จะลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาด COVID-19 โดยที่ทางรัฐบาลของสเปนจะมอบเงินสำหรับโครงการนี้ 50 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.7 พันล้านบาท
ส่วนทางด้านของประเทศอังกฤษก็มีการผลักดันโครงการดังกล่าวเช่นกัน โจ ไรล์ (Joe Ryle) ผู้สนับสนุนแคมเปญนี้ของประเทศอังกฤษ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า แนวคิดนี้มีขึ้นมาเพราะการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเมื่อผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับการทำงานจากออนไลน์ หรือ work from home มากขึ้น ทำให้พวกเขาสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และนอกจากจะลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดแล้ว ยังสามารถที่จะแบ่งงานบางส่วนให้คนว่างงานได้อีกด้วย
เปลี่ยนมาทางด้านของฝั่งเอเชียบ้าง ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งประเทศที่กำลังพิจารณาให้มีการลดการทำงานเหลือ 4 วันต่ออาทิตย์ แต่เมื่อปี 2019 บริษัทไมโครซอฟท์ สาขาประเทศญี่ปุ่น เคยได้ทดลองให้พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 เดือน ผลออกมาว่าได้เงินจำนวนเท่าเดิม แต่พนักงานมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นถึง 39.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2018
อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ประเทศสเปน อังกฤษ หรือญี่ปุ่น เท่านั้น แต่ทางด้านนายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ก็ยังสนับสนุนให้นายจ้างเริ่มที่จะพิจารณาให้พนักงานลดเวลาทำงานลง นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีของฟินแลนด์ก็เคยกล่าวสนับสนุนให้มีการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ โดยให้ทำงาน 6 ชั่วโมงต่อวันเช่นกัน
อ้างอิงจาก
https://www.cnbc.com/…/covid-may-have-pushed-us-closer…
https://www.thebalancecareers.com/benefits-and-drawbacks…
https://503e91ad-b88f-4173-a854-bb050920a0a9.filesusr.com…
You must be logged in to post a comment Login