หลังจากปล่อยให้แฟนๆต้องลุ้นกันใจหายใจคว่ำ เมื่อทีมสหรัฐพ่ายแพ้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม
ให้แก่ทีมชาติฝรั่งเศสมาก่อนหน้านี้ แต่ในนัดชิงเหรียญทอง ที่ ไซตามะ ซูเปอร์ อารีน่า วันนี้
ผลงานของเหล่านักบาสเก็ตบอลชายของสหรัฐ ได้ทำให้ฝันของชาวอเมริกันเป็นจริงอีกครั้ง
เริ่มต้นเกมส์ในควอเตอร์แรก ทีมฝรั่งเศสทำแต้มนำไปก่อนหลังจากเริ่มเกมส์ไปได้ 49 วินาที
โดย นันโด เดอ โคโลก่อนที่ทีมสหรัฐจะทวงแต้มกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว
จบควอเตอร์แรก ทีมยัดห่วงจากสหรัฐขึ้นนำทีมจากเมืองน้ำหอมอยู่ 18-22 แต้ม
ในควอเตอร์ถัดมา ทั้งสองทีมทำผลงานได้ใกล้เคียงกัน ทำให้แต้มในควอเตอร์ที่ 2 ไม่ทิ้งห่างกันมากนัก
โดยทีมสหรัฐฯทำแต้มนำทีมฝรั่งเศสไป 39-44 และเริ่มทิ้งห่างในควอเตอร์ที่ 3 ด้วยสกอร์ 63-71 แต้ม
ในควอเตอร์ที่ 4 ทีมฝรั่งเศสฮึดสู้ ทำแต้มไล่มาติดๆ แต่ในช่วงท้ายๆเกมส์ ทีมสหรัฐก็คุมเกมส์ไว้ได้
เควิน ดูแรนท์ ยิงลูกโทษ ทำสองคะแนนสุดท้าย ก่อนหมดเวลา 9 วินาที ทำให้ทีมชาติสหรัฐ
คว้าเหรียญทองโอลิมปิกไปครองได้อีกสมัย เป็นการคว้าแชมป์ได้ 4 สมัยติดต่อกัน
หลังจากที่เคยทำได้มาแล้วตั้งแต่ โอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง โอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน
และครั้งล่าสุด โอลิมปิก 2016 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล
ผลงานการทำแต้มสูงสุด 29 แต้มของเควิน ดูแรนท์ นอกจากจะช่วยทีมชาติสหรัฐฯ คว้าเหรียญทองได้แล้ว
ยังทำให้ เควิน ดูแรนท์ ทำสถิตคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ 3 เหรียญ ในประวัติศาสตร์กีฬายัดห่วงโอลิมปิก
เท่ากับ แอนโธนี่ คาร์เมโล ตำนานนักยัดห่วงของทีมชาติสหรัฐฯอีกคน ที่ทำได้เมื่อโอลิมปิกครั้งที่แล้ว
ในขณะที่ลูกทีมคนอื่นๆ อย่าง เจย์สัน ตาตั้ม จากบอสตัน เซลติกส์ทำไป 19 แต้ม
เดเมี่ยน ลิลลาร์ด และ จรู ฮอลิเดย์ ทำไปคนละ 11 แต้ม สำหรับชัยชนะในนัดนี้ของทีมชาติสหรัฐอเมริกา
“เรามีลูกทีมหน้าใหม่หลายคน การระบาดของโควิด การกักกันตัวตามมาตราการป้องกันการระบาด
ก็เป็นเรื่องใหม่ที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่มีแฟนๆคอยส่งเสียงเชียร์ในสนาม
และทุกคน คาดหวังให้เราได้รับชนะกลับบ้าน เป็นความกดดันที่เราต้องแบกรับ
เมื่อเอาชนะในเกมส์นี้ได้ มันจึงเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างยิ่ง”เควิน ดูแรนท์กล่าวหลังเกมส์
You must be logged in to post a comment Login