วันนี้ Tojo News จะพาผู้อ่านทุกท่านมารู้จัดตำนานพระฤาษี จากพระไพศาลประชานาถที่หลายคนเคารพศรัทธากันนะคะ
ฤๅษี แปลว่า ผู้มีปัญญาอันได้มาจาก การฝึกฝนพลังจิตอย่างเด็ดเดี่ยว การจะฝึกขึ้นเป็นฤๅษี นั้นมีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งมีขั้นตอนอย่างสังเขปดังนี้
ขั้นที่ ๑ สิทธา คือ ผู้ดำรงการฝึกจนสามารถล่วงรู้ สวรรค์ นรก มีจริง สามารถติดต่อเทวดาและวิญญาณทั้งหลายได้ เราเรียกกันว่า “ฆราวาสผู้ขมังเวทย์”
ขั้นที่ ๒ โยคีหรือโยคะ คือ การบำเพ็ญตนโดยมีหลักวิชาโยคกรรม ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงเคยฝึก คือ การบำเพ็ญทุกขกิริยา
ขั้นที่ ๓ ดาบส คือ ผู้บำเพ็ญตนมุ่งหมายเพื่อให้เกิดตบะ เข้าสู่ญาณเบื้องต้นและเข้าสู่ญาณเบื้องสูงที่เรียกว่า โลกุตรสุข
ขั้นที่ ๔ พระฤๅษี คือ ผู้บำเพ็ญตนผ่านจากการศึกษาวิชา ๓ ขั้นตอนเบื้องต้น เมื่อการบูชาของฤๅษีนั้นถึงพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ท่านจะเสด็จลงมาให้อำนาจฤทธิ์ตามที่ฤๅษีต้องการแล้วพร้อมตั้งชื่อให้ เช่น ฤๅษีอัคคีเนตรหรือฤๅษีตาไฟ ฤๅษีโคสุภเนตรหรือฤๅษีตาวัว เป็นต้น
ทั้งนี้หลายท่านอาจเคยได้ยินคำว่า ๑๐๘ ฤๅษี ทำให้บางท่านเข้าใจว่า ฤๅษีมีเพียง ๑๐๘ ตน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะที่แท้จริงคำว่าร้อยแปดเป็นคำที่เรียกแทนสิ่งที่มีอยู่มากมาย จนไม่อาจนับเป็นจำนวนได้เลยเรียกรวมกันโดยย่อว่า ๑๐๘ ฤๅษี
ฤๅษี ในพจนานุกรมตีความหมายไว้ว่า ฤๅษีผู้ที่ซุกซ่อนหลีกหนีไปสู่สถานอันสงบระงับ อันมิได้มีความวุ่นวายเข้ามาก่อกวน อีกนัยหนึ่ง เรียกว่า ผู้อยู่อย่างสันโดษ ทั้งนี้มีฤๅษีอีกพวกหนึ่งที่เป็นผู้อยู่ในวรรณะสูงมาปฏิบัติตนเป็นฤๅษี ซึ่งเป็นฤๅษีสายขาวโดยสามารถจำแนกอย่างสังเขปได้ดังนี้
๑. พราหมณ์ คือ ผู้ปฏิบัติบูชาโดยการบูชาด้วยวัตถุ ข้าวของ เครื่องสักการะ และอ่านโองการกล่าวบูชา ดีดสีตีเป่า บูชาสักการะเทพเจ้าเหล่าที่นับถือ เพื่อมุ่งประโยชน์ในการกระทำพิธีอย่างหนึ่งให้สำเร็จ เมื่อการปฏิบัติบูชาของตน จะทำให้ตนเข้าสู่ความเป็นฤๅษีนั้น เข้าจะเข้าสู่ขั้นที่ ๒
๒. ชฏิล คือ พราหมณ์จำพวกหนึ่งที่มาใส่ชฎาเกล้าผมไว้หนวดเครายาวรุงรัง ผ้าห่มนั้นก็รุ่งรังยุ่งเหยิงไม่สวยงาม จะอยู่ตามป่าเขาซึ่งไม่ได้อยู่ในเทวสถานประจำเหมือนพวกพราหมณ์ธรรมดา
๓. นักพรต คือ ผู้ปฏิบัติดีจากวรรณะของชฏิล จะต้องเคร่งมากกว่า ส่วนใหญ่จะบำเพ็ญอยู่ในถ้ำคูหาป่าเขา นั่งสมาธิเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี คือว่าเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์มากเลยทีเดียว
๔. นักสิทธิ คือ พราหมณ์ผู้ปฏิบัติคนด้วย ศีลอาจารวัตรมิได้ขาดตกบกพร่อง จนสามารถมีฤทธิ์เหาะเหิรเดินอากาศ หายตัว ลุยน้ำ ดำดินได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ กึ่งเทวดา
๕. มุนี คือ ผู้เป็นพราหมณ์บำเพ็ญเพียรผ่านมาทั้ง ๔ ขั้นตอน แล้วยังทำบำเพ็ญพิธีกรรมต่าง ๆ ถวายแก่พระผู้เป็นเจ้าเพื่อให้ พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาประทานพรจนกลายเป็นถึงบรมครู เป็นผู้มีปัญญาญาณและความรู้ความสามารถในระดับชั้น
ตามพุทธประวัติได้กล่าวไว้ว่า พระพุทธองค์ทรงได้รับการบวชจากมหาฤๅษีชื่อ อาฬาดาบสและอุทสกดาบส เป็นอุปัชฌาย์ ผนวชให้จนได้ชื่อว่า พระฤๅษีสมณโคดมบรมครู โดยคำว่า สมณะ นั้น จะใช้กับผู้ที่อยู่ในวรรณะกษัตริย์ ต่อมาพระองค์ท่านได้หาทางพ้นทุกข์ โดยไม่มีใครบวชให้พระองค์อีกเลย ดังนั้นครูของพระองค์จึงยังคงเป็นฤๅษี ซึ่งทำให้ฤๅษีจะต้องอยู่คู่พระพุทธศาสนาของพระสมณโคดมบรมครูจนถึงกัลป์อันสิ้นสุดจนไปถึงยุคของพระศรีอาริยเมต ตรัยนั้นเอง
การแบ่งฤๅษีเป็นลำดับชั้นต่าง ๆ ดังนี้
ชั้นที่ ๑ เรียกว่า ราชรรษี หมายความว่า เจ้าฤๅษีมีชั้นและฐานะความเป็นอยู่อย่างธรรมชาติปกติ
ชั้นที่ ๒ เรียกว่า เทวรรษี หมายความว่า เจ้าฤๅษีที่บำเพ็ญจนสามารถเหาะเหิรเดินอากาศ มุดน้ำดำดิน หายตัวได้ที่เรียกว่า เทวฤทธิ์
ชั้นที่ ๓ เรียกว่า พรหมรรษี หมายความว่า การปฏิบัติจนมีฌานแก่กล้า เป็นถึงชั้นบรมครูแล้ว เป็นที่เคารพของเทวฤๅษีทั้งหลายเรียกง่าย ๆ ว่า พรหมฤๅษี
ชั้นที่ ๔ เรียกว่า มหรรษี หมายความว่า ฤๅษีเหล่าที่เกิดจากฤทธิ์อำนาจของพระผู้เป็นเจ้า บันดาลขึ้นมาจากกายของพระองค์แต่ละองค์ อย่างเช่น สัตตะฤๅษี
ฤๅษีทั้ง ๗ องค์ที่ออกมาจากการบันดาลของพระศิวะเจ้า มีรายนามดังนี้
๑. มรีจิ ๒. อัตริ ๓. อังคีรส ๔. ปุจหะ ๕. กระตุ ๖. ปุจลัสตะยะ ๗. วิสิษฐิ
ฤๅษีทั้ง ๗ องค์ที่เป็นของพราหมณ์ เป็นการบันดาลของพระพรหม มีรายนามดังนี้
๑. โคดม ๒. ภริทวาร ๓. วิศรามิตร ๔. ชมทิศนี (ชมมิทอัคคี) ๕. วิสิกรุ ๖. กศยป (กัด-สะ-หยบ) ๗. อัตริ
ใจความที่บุคคลเชื่อถือกันว่าฤๅษีมีมากตนนับลัวนับอีก ไล่เรียงไม่ถ้วน ในที่นี้จึงอนุมาน ๑๐๘ ตน เพราะฤๅษีก็คือนักพรตผู้ออกบวชแสวงบุญมุ่งหวังโพธิญาณแต่ท่านใดจะถึงหรือไม่ก็ถือว่า ท่านเหล่านั้นได้บำเพ็ญวิริยะบารมี เพื่อในอนาคตกาลมุ่งพุ่งลงสู่ถึงพระนิพพานเป็นที่หวังดังนี้แล
สำหรับฤๅษีที่ได้นำเสนอเป็นรูปในหน้าต่อไปเป็นองค์ฤๅษีแกะด้วยไม้มงคลขนาด ๙ นิ้ว เพื่อให้ได้แลเห็นภาพ ซึ่งมีชื่อแต่ละองค์ไม่เหมือนกันทั้งกิริยาท่าทางก็แตกต่างกัน นอกจากนี้แล้วชื่อฤๅษีอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง ต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้เนื่องจากการค้นคว้านั้นไม่ถี่ถ้วน จึงอาจขาดตกบกพร่องทั้งนี้ด้วยความจริงใจ เพื่อเป็นเครื่องประดับเสริมเติมความรู้เป็นดังที่มุ่งหวัง สำหรับองค์ฤๅษีที่นำมาให้ได้ชมภาพนี้ มีให้ท่านได้ดูชมหรือบูชาเพื่อเป็นนิมิตหมายแห่งการตั้งอยู่ในความดีและไม่ประมาทเป็นที่ตั้ง
คราวหน้า #สารพันมู จะหาบทความ องค์ความรู้ต่าง ๆ มาแนะนำให้ทุกท่านอีกนะคะ
You must be logged in to post a comment Login