รูเบน อโมริม (Ruben Amorim) เป็นหนึ่งในโค้ชหนุ่มที่มาแรงที่สุดในวงการฟุตบอลปัจจุบัน ด้วยสไตล์การคุมทีมที่เฉียบขาดและการจัดระบบที่มีประสิทธิภาพ เขาสร้างชื่อเสียงในฐานะโค้ชของสปอร์ติง ลิสบอน (Sporting CP) สโมสรชื่อดังของโปรตุเกส โดยนำทีมคว้าแชมป์ Primeira Liga ฤดูกาล 2020–21 หลังจากที่สโมสรไม่ได้สัมผัสแชมป์ลีกมายาวนานกว่า 19 ปี อโมริมแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างทีมให้เป็นเอกภาพ ทั้งการใช้กลยุทธ์เกมรับที่แน่นแฟ้นและการพัฒนาเยาวชนของทีมได้อย่างโดดเด่น
ก่อนจะมาเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จ อโมริมเคยเป็นนักเตะในตำแหน่งกองกลางให้กับสโมสรใหญ่ในโปรตุเกสอย่างเบนฟิก้า โดยเขามีจุดเด่นที่การเล่นอย่างฉลาดและมีสไตล์การเล่นแบบแข็งแกร่ง หลังจากอำลาสนามในปี 2017 เขาเริ่มต้นงานคุมทีมจากระดับเยาวชนจนเติบโตอย่างรวดเร็ว เขาได้รับโอกาสคุมทีมสปอร์ติงอย่างเต็มตัวในปี 2020 ซึ่งเขาแสดงความสามารถในการปรับระบบการเล่นและนำทัพนักเตะอายุน้อยขึ้นมาเป็นกำลังหลักในทีม เช่น เปโดร กอนซาลเวส และกอนซาโล อินาซิโอ
ความสำเร็จของอโมริมไม่ได้มาจากเพียงแค่การชนะในสนามเท่านั้น แต่ยังมาจากการสร้างสภาพแวดล้อมทีมที่มีความเชื่อมั่นและทัศนคติที่ต้องการคว้าชัยชนะของนักเตะทุกคน เขายังเน้นที่การพัฒนาทีมในระยะยาว รวมถึงการใช้นักเตะจากอะคาเดมีเพื่อสร้างทีมในอนาคต ความมุ่งมั่นและการเป็นผู้นำที่ดีของอโมริมทำให้เขาได้รับการยกย่องในฐานะโค้ชรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำทีมที่ยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลยุโรป
รูเบน อโมริม เริ่มต้นเส้นทางการเป็นโค้ชหลังจากเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2017 โดยเริ่มคุมทีมในระดับเยาวชนก่อนเข้าสู่วงการคุมทีมอาชีพอย่างรวดเร็ว
- คาซ่า ปิอา: อโมริมเริ่มต้นอาชีพคุมทีมในปี 2018 กับคาซ่า ปิอา (Casa Pia) สโมสรเล็ก ๆ ในโปรตุเกส ซึ่งเขาสร้างผลงานได้ดี แต่เขาถูกแบนเนื่องจากไม่มีใบอนุญาตโค้ช ทำให้ต้องพักจากการคุมทีมชั่วคราว
- สปอร์ติง บราก้า: ปี 2019 อโมริมเข้าร่วมสโมสร สปอร์ติง บราก้า โดยเริ่มจากทีมสำรองและได้เลื่อนมาคุมทีมชุดใหญ่ในปีเดียวกัน เขาสร้างความประทับใจด้วยการพาบราก้าคว้าชัยชนะในการแข่งขันถ้วย Taça da Liga ในปี 2020 ซึ่งเป็นหนึ่งในความสำเร็จสำคัญที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงการฟุตบอลโปรตุเกส
- สปอร์ติง ลิสบอน (Sporting CP): ปี 2020 อโมริมเข้ามาคุมสปอร์ติง ลิสบอน ด้วยค่าตัวสูงถึง 10 ล้านยูโร โดยเขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ Primeira Liga ในฤดูกาล 2020-21 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 19 ปีของสโมสร เขายังนำทีมคว้าถ้วย Taça da Liga ได้อีกครั้งและทำให้สปอร์ติงเป็นที่ยอมรับในระดับยุโรป อโมริมยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ส่งผลให้ทีมมีความแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว
ผลงานและแนวทางการคุมทีมของอโมริมแสดงให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์และการสร้างทีมที่เน้นความสามัคคี นับว่าเป็นหนึ่งในโค้ชที่มีอนาคตไกลและได้รับการยกย่องว่าอาจจะกลายเป็นผู้นำทีมชั้นนำของยุโรปในอนาคต
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #แมนยูไนเต็ด #ฟุตบอล #รูเบนอโมริม