ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า Plant-based Food หรืออาหารจากพืชที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ กลายเป็นเทรนด์ใหญ่ไปทั่วโลก มีทั้งเบอร์เกอร์ที่ทำจากโปรตีนถั่ว เนื้อไก่ปลอมจากถั่วเหลือง หรือแม้แต่นมจากข้าวโอ๊ต หลายคนสงสัยว่า นี่คือ อนาคตของอาหารโลก หรือเป็นเพียง “แฟชั่นอาหาร” ที่จะค่อย ๆ จางหายไป?
1. ทำไม Plant-based ถึงมาแรง
- กระแสรักสุขภาพ → ลดไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์จริง
- สิ่งแวดล้อม → การผลิตเนื้อสัตว์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง การกิน Plant-based ลดผลกระทบต่อโลก
- สิทธิสัตว์ → คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการไม่เบียดเบียนสัตว์
- นวัตกรรมอาหาร → รสชาติและสัมผัสของ Plant-based ดีขึ้นจนใกล้เคียงเนื้อจริง
2. ข้อดีของ Plant-based Food
- ช่วยลดคอเลสเตอรอลและความเสี่ยงโรคหัวใจ
- มีไฟเบอร์สูง ดีต่อการย่อยและระบบขับถ่าย
- เป็นอีกทางเลือกให้คนที่แพ้นม แพ้ไข่ หรือไม่ทานเนื้อสัตว์
3. ข้อจำกัดและข้อกังวล
- ราคา → ยังสูงกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไป ทำให้เข้าถึงได้ยากในบางประเทศ
- โภชนาการ → แม้มีโปรตีน แต่บางยี่ห้อมีโซเดียมสูงหรือใส่สารปรุงแต่งมาก
- รสชาติ → ถึงจะพัฒนาแล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกใจคนที่ชอบรสเนื้อจริง
- เป็นกระแสหรือยั่งยืน → ถ้าไม่ลดราคาและทำให้เข้าถึงง่าย อาจไม่เติบโตระยะยาว
4. สถานการณ์ในไทย
- เริ่มเห็นร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ตนำ Plant-based มาวางขายมากขึ้น
- มีแบรนด์ไทยที่ทำโปรตีนถั่วเหลืองและข้าวโพดออกมาแข่งกับแบรนด์ต่างชาติ
- เทรนด์ยังอยู่ในกลุ่มคนเมือง คนรักสุขภาพ และวัยรุ่นที่ตามกระแสโลก
สรุป
Plant-based Food ไม่ได้เป็นแค่ “แฟชั่น” แต่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งเรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และค่านิยมใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม อนาคตจะยั่งยืนแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการพัฒนาให้ อร่อย ราคาจับต้องได้ และเข้าถึงคนทั่วไปมากขึ้น
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #สุขภาพ #การกิน