มีรายงานข่าวว่าเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นทางผ่านของซุปเปอร์ไต้ฝุ่นโนรู แม้ว่าไต้ฝุ่นโนรู จะอ่อนกำลังลงพอสมควร หลังขึ้นฝั่งที่เกาะลูซอน ด้วยความเร็วลมคงที่ 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่ความรุนแรงของพายุยังเทียบเท่า เฮอร์ริเคนความแรงระดับ 3 ตามมาตรวัดพายุซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายแห่ง และคลื่นพายุเข้าซัดชายฝั่งมีความสูงหลายเมตร ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างแก่สิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนรวมถึงได้คร่าชีวิตประชาชนแล้วอย่างน้อย 5 ราย
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรู หรือที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกว่าพายุ “คาร์ดิง” นับเป็นพายุลูกที่ 11 ซึ่งพาดผ่านฟิลิปปินส์ในปีนี้ จากโดยเฉลี่ยจะมีพายุพาดผ่านปีละ 20 ลูก
ล่าสุดประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ สั่งปิดโรงเรียนและสถานที่ทำการของรัฐทุกแห่งบนเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ทางเหนือของฟิลิปปินส์ และกำชับหน่วยงานทุกแห่งพร้อมส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ในขณะที่กระทรวงพลังงานของฟิลิปปินส์ ได้เฝ้าระวังโครงสร้างพื้นฐานทุกแห่ง ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์ของฟิลิปปินส์จะปิดทำการชั่วคราวตลอดวันจันทร์ที่ 26 ก.ย.นี้