เวลาอยากลดน้ำหนักหรือฟิตหุ่น คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยคือ “HIIT (High Intensity Interval Training) กับการทำ Cardio แบบยาว อะไรเผาผลาญดีกว่ากัน?” ความจริงคือทั้งสองแบบมีข้อดีต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ร่างกาย และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
1. HIIT คืออะไร?
HIIT คือการออกกำลังกายแบบ “หนักสลับเบา” เช่น วิ่งเร็ว 30 วินาที สลับเดิน 1 นาที ทำซ้ำ 10–20 นาที ข้อดีของ HIIT คือ:
- เผาผลาญพลังงานได้มากในเวลาสั้น ๆ
- มี “Afterburn Effect” หรือ EPOC (Excess Post-Exercise Oxygen Consumption) ที่ทำให้ร่างกายยังคงเผาผลาญพลังงานต่อหลังออกกำลังกาย
- พัฒนาทั้งความอึดและความแข็งแรงของหัวใจ
แต่ข้อเสียคือ เหนื่อยมาก เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานการออกกำลังกายบ้างแล้ว ถ้าเพิ่งเริ่มต้นอาจทำให้บาดเจ็บได้ง่าย
2. Cardio แบบยาวคืออะไร?
Cardio แบบยาว (Steady State Cardio) เช่น เดินเร็ว วิ่งจ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำต่อเนื่อง 30–60 นาที จุดเด่นคือ:
- เผาผลาญแคลอรี่เรื่อย ๆ ระหว่างทำ
- ช่วยพัฒนาความฟิตพื้นฐานของหัวใจและปอด
- ความเสี่ยงบาดเจ็บน้อยกว่า HIIT
- เหมาะกับมือใหม่หรือคนที่อยากออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลาย
ข้อจำกัดคือ ใช้เวลานานกว่าในการเผาผลาญพลังงานปริมาณใกล้เคียงกับ HIIT
3. เทียบการเผาผลาญ
- HIIT 20 นาที อาจเผาผลาญได้ ~250–400 kcal และยังมี Afterburn Effect ทำให้เผาผลาญต่อเนื่องหลังจบ
- Cardio แบบยาว 45–60 นาที เผาผลาญได้ ~300–500 kcal แต่พอหยุดออกกำลัง การเผาผลาญก็หยุดไปด้วย
4. แล้วควรเลือกแบบไหนดี?
- อยากลดไขมันไว / มีเวลาน้อย → HIIT ตอบโจทย์
- อยากออกกำลังแบบชิล ๆ ต่อเนื่อง / ฟื้นฟูร่างกาย → Cardio แบบยาวเหมาะกว่า
- สายจริงจัง → ผสมทั้งสองแบบ เช่น 2 วัน HIIT + 2 วัน Cardio ยาว จะช่วยให้ได้ทั้งความอึดและการเผาผลาญ
สรุป
ไม่มีแบบไหน “ดีกว่า” อย่างเด็ดขาด ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความเหมาะสมของร่างกาย ถ้าเป็นมือใหม่ให้เริ่มจาก Cardio แบบยาวก่อน แล้วค่อยเพิ่ม HIIT เข้ามาเพื่อเร่งการเผาผลาญ จะได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและลดโอกาสบาดเจ็บ
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา
Line Today TOJO NEWS , ToJoNews
#โตโจนิวส์ #TOJONEWS #สำนักข่าวโตโจนิวส์ #สุขภาพ #ออกกำลังกาย