ยังคงเป็นคดีที่ทุกคนให้ความสนใจ กับกรณีการเสียชีวิตของ แตงโม ภัทรธิดา โดยเมื่อวานนี้ กระติก ให้การรับสารภาพ ว่าตนเองนั้นให้การเท็จ ในครั้งแรกที่ให้การ ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ได้ต่อสายสัมภาษณ์ กระติก ในรายการ โหนกระแส และยังมี นายสิระ เจนจาคะ มาร่วมตอบคำถามด้วย โดยนาย สิระ เผยว่า
สิระ : ผมกำลังเที่ยวพักผ่อนอยู่ ก็มีโทรศัพท์จากพ่อของคุณกระติก เลยต้องบินกลับมาเมื่อวานบ่ายโมง ซึ่งเขาเห็นว่าผมให้ความช่วยเหลือลุงนิต ลุงหาปลา เขาก็เชื่อมั่น ที่ผ่านมาก็ช่วยเหลือประชาชนเยอะมาก เพิ่งเจอกันเมื่อวานเลย บ่ายโมงตรง เขาบอกต้องการคำปรึกษา และมีหมายเรียกของตำรวจ สภ.เมืองนนท์ เขาก็เล่าให้เราฟังหมด ทุกเรื่อง เขาติดกระดุมเม็ดแรกผิด ที่ไปเชื่อที่คนอ้างว่าอาชีพนักกฏหมาย 5 คนให้การสอดคล้องกัน เช่นเรื่องมีไวน์กี่ขวด ในสำนวนผมไม่เห็น เรื่องไปเจอตำรวจช้าแอลกอฮอล์ เรื่องสารเสพติด ผมว่าทนายชุดนี้ตกยุค
เมื่อวานพอเข้าไปที่ สภ. ตำรวจว่ายังไงบ้าง?
สิระ : ก็รับสารภาพหมดเปลือก ตั้งแต่ก่อนลงเรือด้วยนะ เรื่องไปรับสารภาพว่า สิ่งที่พูดมีเรื่องจริงและไม่จริงด้วย เรื่องไม่จริงบอกไม่ได้ครับ
คุณกระติก ตอนนี้อยู่ในสายแล้ว เมื่อวานรับสารภาพแล้ว?
กระติก : เมื่อวานรับสารภาพ หนูก็รับตามข้อกล่าวหาตามที่ตำรวจแจ้งค่ะ คือให้การเท็จ ส่วนเรื่องคุณสิระ เนื่องจากเพื่อนคุณพ่อซึ่งเป็นทนาย ทำงานอยู่ในสำนักงานกฎหมายของคุณสิระ รู้ข่าวว่าดูแลรับผิดชอบคดีลุงนิต คนหาปลา ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีของหนูด้วย จังหวะประจวบเหมาะกันพอดี เลยมีการนำเรื่องมาปรึกษา
เมื่อวานนี้ จ็อบ เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเลย ได้คุยกันมั้ย?
กระติก : ไม่ได้คุยเลยค่ะ ติกไม่มีเบอร์จ๊อบ ติกจะมีเบอร์แซน ปอ ติกรู้จัก กับพี่โรเบิร์ตก็มีคุยช่วงแรกๆ หลังจากสึกก็ไม่ได้คุย
พอเราไปสารภาพ ตอนนี้เลยมีคนไปพูดว่าแพแตก มีปัญากันเอง?
กระติก : ไม่มี ก็คุยปกติ ยึดหลักตามจริง จริงก็ว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่แบบนั้นเลย กับคนอื่นไม่ทราบว่าเขาให้การกันยังไง แต่คำให้การติกพิจารณาแล้วอันไหนจริงก็จริง ตรงไหนไม่ก็ไม่ อะไรที่เราเห็นก็เห็น ยึดหลักความจริงเลย เรื่องฉี่ถ้ายเรือ หนูไม่เห็นหนูนั่งข้างหน้า หันหน้าดูวิว ไม่เห็นเหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น แต่แซนเป็นคนบอกแบบนั้นเพราะแซนอยู่กับโม พวกนี้อยู่ในคำให้การ ณ จุดนั้นเราไม่เห็น
ตรงกับที่โบ ทีเค ยืนยันว่า กระติกบอกไม่ได้เห็นตั้งแต่แรก?
กระติก: 4 คนไม่เห็นเพราะหันหน้าไปข้างหน้า ติกให้การมาตลอดเป็นประโยชน์ด้วย เรื่อยๆ ไม่ได้คิดช้านะ ให้การมาโดยตลอด อย่างเช่นให้การสีเสื้อผิด ก็ไปให้การใหม่
ตอนนั้น ปอเขาบอกว่า กินไป 3 ขวด แล้วตกลงมันไม่ใช่ถูกมั้ย
กระติก: หนูไม่ทราบว่ากี่ขวดค่ะ เพราะหนูไม่ได้เป็นคนเท
ถามง่ายๆ เลยว่า มีคนมาบอก กระติก ว่าให้พูดว่า 3 ขวดใช่มั้ย?
กระติก: อันนี้มันอยู่ในสำนวนค่ะ หนูไม่อยากพูด ส่วนเรื่องการโยนของทิ้งน้ำ ยืนยันไม่ได้จับขวด จับแต่แก้ว ไม่ใช่หนูที่โยน
วันที่ไปหาตำรวจช้าเป็นเพราะมีคนแนะนำจริงๆ ใช่มั้ย
กระติก: มีด้วยค่ะ พวกเราตั้งใจไปหาตำรวจกันอยู่แล้ว ก็มีคนแนะนำด้วยว่าอย่าเพิ่งมา ก็เชื่อ
ไม่กลัวใช่ไหมกล้ามารับสารภาพ จนถูกแจ้งความให้การเท็จ ไม่กลัวเพื่อนๆ อีก 4 คน ตีกันใช่ไหม?
กระติก : ไม่นะคะ เพราะเป็นเรื่องเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีอยู่เรื่องเดียว ถ้าเกินจากนี้ก็ไม่ใช่เรื่องจริงแล้ว อาจมีบางประเด็นที่ไม่ตรงกันเล็กๆน้อยๆ ไม่ใช่สาระสำคัญในคดีด้วยซ้ำ
กระแสข่าวที่พี่พูดออกไปได้ยินแว่วๆ กระติก มีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อฟ้องร้อง บุคคล 2-4 คน ที่พูดพาดพิงให้กระติกเสื่อมเสีย หรือพูดข้อความอันเป็นเท็จทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ข้อเท็จจริงเป็นยังไง?
กระติก : อยากจะพูดแบบรวมๆ ภาพกว้าง ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น แต่ถ้าความคิดเห็นนั้นไปทำให้คนอื่นเสียหาย ไปทำร้ายบิดเบือน ทำคนเข้าใจผิด ปลุกปั่นให้คนเกลียดชังเรา มันเป็นเรื่องที่คุณต้องรับผิดชอบ ใครพูดอะไรไว้ต้องรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเอง สำหรับประชาชนทั่วไปเราเข้าใจว่าทุกคนรักโม มีอารมณ์ร่วมกับข่าว อาจจะเข้าใจกันไปต่างๆนานา ถูกบ้างผิดบ้างมาคอมเมนต์ถึงเรา เข้าใจได้ไม่ว่ากันแต่สำหรับตัวปั่นสร้างความเกลียดชัง พวกชี้นำทั้งหลายคืออะไร
ปรึกษาที่ปรึกษาทางกฎหมายเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย?
กระติก: ดำเนินเรื่องไปแล้วส่วนหนึ่ง เห็นเงียบๆอย่างนี้หนูไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆนะ หนูไม่ได้เก็บตัวอยู่บ้านนะ ใช้ชีวิตปกติ คุยทนาย อะไรที่ทำได้ก็ทำ เจ้าหน้าที่เรียกไปก็ไป ใช้ชีวิตปกติ รับส่งลูกที่โรงเรียนเองทุกวัน เพื่อนๆ 4 คนบนเรือก็มีคุยกันบ้าง
สิระ : เรื่องฟ้องร้องเขาไม่ได้ปรึกษาผมนะ คนที่ได้ผลประโยชน์จากการให้คนเกลียดชังกระติกมีเยอะ พวกนี้ต้องโดนครับ