โควิดก็มา แต่ทำไมแฟนยังไม่มา… อย่างเพิ่งเศร้าไป ยังมีเวลาไปลองใช้ 3 แอพหาคู่ยอดฮิตที่โตโจ้นิวส์ รวบรวมมาดูนะ ก่อนปีใหม่ต้องมีให้ได้!!
Tinder
แอปพลิเคชันหาคู่ยอดฮิตจากอเมริกาที่ครอบคลุมกว่า 190 ประเทศทั่วโลก โดยเราสามารถตั้งค่าเพศ อายุ ที่ชอบได้ ไปจนถึงเลือกขอบเขตรัศมีการค้นหาคู่ได้ เราสามารถดูข้อมูลชื่อ ประวัติสั้นๆ และรูปเพิ่มเติมได้ มาพร้อมคอนเซ็ปต์การเล่นง่ายๆ “Match. Chat. Date.” ถ้าใช่ปัดขวา (Swipe Right) ไม่ใช่ปัดซ้าย (Swipe Left) หรือถ้าถูกใจมาก ก็ปัดขึ้นบนหรือกดดาว (Super Like) เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ ซึ่งถ้าเขาก็สนใจเราเหมือนกัน (ปัดขวาให้เรา) ก็จะถือว่า Match! และเมื่อจับคู่กันแล้วทั้งสองฝ่ายก็จะสามารถแชทกันได้
Bumble
แอปพลิเคชันหาคู่ที่กำลังฮอตฮิตตามหลัง Tinder มาติดๆ ซึ่งทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชันนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่พวกเขาแยกตัวออกมาจาก Tinder โดยมีจุดประสงค์ที่ต้องการสร้างสิ่งที่แตกต่างกว่า แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบฟังก์ชันการใช้งานง่ายๆ อย่าง การปัดขวา-ซ้าย เมื่อเจอคนที่ใช่และไม่ใช่มาใช้กับ App นี้ด้วย ฟังก์ชันที่โดดเด่นคือ หลังจาก Match แล้ว ไม่ใช่ใครจะทักใครก่อนก็ได้ แต่ Bumble จะให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาก่อนภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งหากภายในเวลานี้หากยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น รวมถึงทักไปแล้วฝ่ายชายไม่ตอบกลับ การจับคู่ก็จะอันตรธานหายไปโดยอัตโนมัติ แต่ทั้งนี้หนุ่มๆ สามารถกดขยายเวลาต่อไปได้อีก 24 ชั่วโมง กรณีที่ฝ่ายหญิงไม่ยอมทักมาหาเสียที เพื่อให้โอกาสเธอคนนั้นได้มีเวลาแก้ตัวได้อีกครั้ง
Coffee Meets Bagel
แอปพลิเคชั่นนี้เหมาะสำหรับสาวที่รู้สเปคตัวเองอย่างชัดเจน เพราะเขาจะให้เรากรอกโปรไฟล์แล้วแอปพลิเคชั่นจะคัดเลือกคู่ที่ความชอบตรงกันส่งมาให้เราวันละ 2-3 คน ซึ่งเราจะกดรับหรือกดไม่รับก็ได้ แต่ถ้าแมชท์แล้วต้องคุยภายใน 7 วัน ไม่งั้นแชทจะ expire หายไป โดยการการจับคู่นี้จะมีการแข่งขันต่ำกว่าซึ่งมีโอกาสที่ประสบความสำเร็จมากกว่านั่นเอง โดยเขาเคลมว่าจะทำให้เราได้เลือกเดทจากคุณภาพมากกว่าปริมาณ โอกาสพบรักแท้จะสูงกว่า
ท้ั้งนี้ โตโจ้นิวส์เชื่อว่าความรักเกิดขึ้นได้ในทุกที่ แต่การใช่แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ ต้องใช้ความระมัดระวังด้วย เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อย่างที่เราเห็นบ่อยครั้งในข่าว
You must be logged in to post a comment Login