ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ได้ถึงถิ่น 1-3 ทำแต้มจี้ติดจ่าฝูงเหลือ 9 คะแนน

ครึ่งแรกหงส์แดงได้ 2 ประตูจากลูกโหม่งของฟาน ไดจ์ และลูกยิงสุดคมของ อ็อกเลด-เชมเบอร์เลน
ครึ่งหลังเจ้าถิ่นได้ประตูตีไข่แตกจาก เอดูอาร์ด ก่อนที่ท้ายเกมส์ ลิเวอร์พูลจะมาได้ประตูที่ 3 จากจุดโทษ

 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 ทีม”ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ
เปิดบ้านสนามสนามเซลเฮิร์สท์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูง

เจ้าถิ่นจัดทีมชุดใหญ่รับมือรองจ่าฝูง ส่ง ไมเคิล โอลิเซ่ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ด และ ฟิลิปเป้ มาเตต้า
เป็นสามประสานในแนวรุก ทะลวงตาข่ายคู่แข่ง ในขณะที่ทีมเยือนส่ง ดิโอโก้ โฌต้า โรเบอร์โต้ เฟอร์มีโน่
และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-เชมเบอร์เลน ลงเป็นสามประสานในแนวหน้า ล่าประตูจากทีมเจ้าถิ่น

เริ่มต้นเกมส์ในครึ่งแรก ทีมเยือน ลิเวอร์พูล เดินหน้าบุกกดดันคู่แข่งตามถนัด สร้างโอกาสพาบอล
ไปยิงประตูตั้งแต่ต้นเกมส์ จากลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านของ โรเบิร์ตสัน ในนาทีที่ 5 และจังหวะซัดไกล
นอกกรอบของ เฮนเดอร์สัน ในนาทีที่ 7 จังหวะต่อเนื่องกัน ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย
โรเบิร์ตสัน เปิดบอลลอยโด่งมาที่เสาแรก ฟาน ไดจ์ วิ่งหนีตัวประกบได้ขึ้นโหม่งจ่อๆ ส่งบอล
เข้าไปตุงตาข่าย ทีมเยือนลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 0-1 ในนาทีที่ 8

เมื่อได้ประตูขึ้นนำ ทีมเยือนยังเดินหน้าทำเกมส์บุกอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เจ้าถิ่นแทบไม่มีโอกาสสร้าง
ความกดดันให้ทีมเยือนเลย นาทีที่ 21 ทีมเยือนได้สวนกลับ มาเตต้า ได้สับไกยิงจ่อๆ อลิสซง เบคเกอร์
เซฟเอาไว้ได้ แต่ก็เป็นการล้ำหน้าอยู่ดี นาทีที่ 24 ลิเวอร์พูลเดินเกมส์บุกขึ้นมาอีกหน โรเบิร์ตสัน ส่งบอล
ต่อไปให้เฟอร์มีโน่รับบอลจากสุดเส้นหลังจ่ายบอลเข้าในให้ โฌต้า จ่ายบอลกลับมาให้ ฟาบินโญ่ สับไกยิง
ตรงริมเส้นกรอบเขตโทษ แต่บอลลอยโด่งข้ามคานออกหลังไป จังหวะต่อมาในนาทีที่ 32 โฌต้า
ดีดบอลจากกลางสนามส่งมา ให้โรเบิร์ตสัน ทางซ้ายเลี้ยงพาบอลขึ้นหน้า มาก่อนจะเปิดบอลยาวลอยโด่ง
ไปทางเสาไกล ถึงอ็อกซ์เลด-เชมเบอร์เลน พักบอลลงฟื้นด้วยหน้าอก แล้วสับไกยิงด้วยเท้าซ้าย
บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย ทีมเยือนออกนำห่างเป็น 0-2 ในนาทีที่ 32

นาทีที่ 38 แนวรับของลิเวอร์พูลพลาด มาติ๊ป จ่ายบอลขวางสนามข้ามมาทางซ้าย โดนไมเคิล โอลิเซ่
วิ่งมาฉกบอลไปได้ แล้วเลี้ยงเข้าไปสับไกยิง แต่อลิสซง เบคเกอร์ ก็ยังป้องกันเอาไว้ได้อีกครั้ง
นาทีที่ 41 เฟอร์มีโน่ จ่ายบอลพลาด เสียบอลจากกลางสนาม ไมเคิล โอลิเซ่ ฉกเอาบอลมาเล่นแล้ว
เลี้ยงขึ้นหน้า ก่อนจะจ่ายบอลต่อไปให้ อาเตต้า แตะบอลหนีแนวรับของทีมหงส์แดงไปถึงเสาสอง
แล้วจึงสับไกยิง แต่มุมเหลือน้อย บอลพุ่งผ่านหน้าปากประตูทีมเยือนออกหลังไป
หมดเวลาในครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมาขึ้นนำ คริสตัล พาเลซ ไปด้วยสกอร์ 0-2

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเดินหน้าบุกตั้งแต่ต้นเกมส์ หวังทวงประตูคืน นาทีที่ 48 ไมเคิล โอลิเซ่
เปิดบอลจากทางฝั่งซ้ายมาหน้าประตูหงส์แดง เจฟฟรี่ย์ ชลุ๊ปป์ โหม่งบอลลงฟื้นมาให้ เอดูอาร์ด
ตอกสันจ่อๆ หน้าประตูแต่ อลิสซง เบคเกอร์ ก็ยังตะบบบอลเอาไว้ได้

นาทีที่ 53 ทีมเยือนได้บุกสวนกลับ โรเบิร์ตสัน จ่ายบอลยาวมาถึง เชมเบอร์เลน ทางฝั่งขวาของสนาม
เชมเบอร์เลน ตักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ เฮนเดอร์สัน รับบอลมาแล้วหมุนตัวยิงด้วยซ้ายบอล
หลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 55 โจเอล มาติ๊ป โหม่งสกัดบอลไปเข้าทางเจ้าถิ่น
เจฟฟรี่ย์ ชลุ๊ปป์ เอาบอลมาเล่น แล้วจ่ายทะลุช่องไปถึง มาเตต้า เลี้ยงบอลเข้าเขตโทษก่อนจะหลอก
อลิสซง เบคเกอร์ หักข้อจ่ายบอลมาให้อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ด ทางเสาไกล วิ่งมาแปบอลเข้าประตูไปแบบโล่ง
เจ้าถิ่นได้ประตูไล่ตามมาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 55

เจ้าถิ่นเมื่อได้ประตูตีไข่แตก ได้กำลังใจเพิ่ม ก็เดินหน้าทำเกมส์บุกเป็นระลอกๆ มีโอกาสพาบอลไปสร้างความ
กดดันให้ทีมหงส์แดงหลายจังหวะ แต่จังหวะจบสกอร์ไม่เฉียบคมพอ ท้ายเกมส์ในนาทีที่ 85 ลิเวอร์พูล
วางบอลยาวขึ้นหน้ามาให้ดิโอโก้ โฌต้า พาบอลเข้าไปดวลกับนายทวารเจ้าถิ่นแล้วชนกันล้มลงในเขตโทษ

กลายเป็นจังหวะปัญหา กรรมการต้องรอเช็คภาพจากทีมงาน VAR แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุป เควิน เฟรนด์
ผู้ตัดสินในสนามจึงต้องไปเช็คภาพด้วยตัวเองจาก VAR ริมสนาม ก่อนจะเป่าให้จุดโทษแก่ลิเวอร์พูล
ฟาบินโญ่ รับหน้าที่สังหารประตู หงส์แดงออกนำห่างเป็น 1-3

เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูลบุกมาเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ได้ถึงถิ่น 1-3 ทีมหงส์แดง
ลงเตะ 22 นัดมี 48 คะแนนตามหลังจ่าฝูงอยู่ 9 แต้ม ในขณะที่เจ้าถิ่นลงเตะ 22 นัดมี 24 แต้ม
รั้งอันดับที่ 13 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ภาพจาก
Crystal Palace F.C. (@CPFC) / Twitter
Liverpool FC (@LFC) / Twitter
The Athletic UK (@TheAthleticUK) / Twitter