เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ตำรวจไซเบอร์แถลงข่าวการจับกุมผู้กระทำผิดในคดี หลอกลวงต้มตุ๋นออนไลน์ มีผู้เสียหายสูญเงินนับแสน
สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2565 ผู้เสียหายพบโฆษณาในเฟซบุ๊ค อ้างว่ารับสมัครทำงานเสริมออนไลน์ เพียงใช้เวลา 5-10 นาที สามารถสร้างรายได้เป็นเงิน 500 – 1,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ติดต่อพูดคุยกับมิจฉาชีพ ได้พูดคุยกับแอดมินผ่านแอปไลน์ โดยช่วงแรก ผู้เสียหายเริ่มงานด้วยการกดไลค์ในเฟซบุ๊คแล้วได้ผลตอบแทนจริง
ต่อมา แอดมินได้ให้ผู้เสียหายทำงานถัดไปคือ การกดสั่งซื้อสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้าออนไลน์ ผ่านทางแพลตฟอร์ม SHOPEE โดยได้ส่งลิงค์เว็บไซต์ที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นให้ลงทะเบียน แล้วเริ่มทำงานโดยการให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปสำรองในระบบเพื่อสั่งซื้อสินค้า ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้น เมื่อทำงานเสร็จแล้วผู้เสียหายจะได้รับเงินทุนพร้อมค่าคอมมิชชั่นคืน ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อว่าได้เงินจริง อีกทั้ง มิจฉาชีพอ้างว่าผู้เสียหายได้เลื่อนระดับ ถูกดึงเข้ากลุ่ม VIP แล้วโดนหลอกให้โอนเงินเพิ่มขึ้น โดยมีสมาชิกหน้าม้าในกลุ่มคอยสนทนาสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งสิ้น จำนวน 9 ครั้ง เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 430,974 บาท
หลังจากเจ้าหน้าที่สืบสวนเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง โดยเมื่อช่วงค่ำของ วันที่ 15 ส.ค. 2566 พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ได้นำกำลังชุดสืบสวนร่วมกันลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งได้เปิดบัญชีธนาคารไว้สำหรับรับโอนเงินจากเหยื่อในคดีดังกล่าว จนสามารถเข้าจับกุมตัว นายเอกชัย อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดมหาสารคาม โดยควบคุมตัวได้บริเวณ หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ในข้อหา
“ ร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้ง หมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใด บุคคลหนึ่ง ”
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป