นายวิรไท สันติประภพ และนางธาริษา วัฒนเกส 2 อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนักวิชาการและคณาจารณ์จากคณะเศรษฐศาสตร์ ร่วมกันลงชื่อ พร้อมออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก “นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” เนื่องจากเป็นนโยบายที่ได้ไม่คุ้มเสีย พร้อมชี้แจงเหตุผลโดยสรุป คือ
- ไม่มีความจำเป็นที่รัฐจะต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อกระตุ้น การบริโภค ภายในประเทศ รวมถึงการบริโภคส่วนบุคคล ควรเน้นการใช้จ่ายของภาครัฐ
ในการสร้างศักยภาพในการลงทุนและการส่งออกมากกว่า เพราะการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศเป็นปัจจัยให้เกิดเงินเฟ้อสูงขึ้นตามมาอีก หลังเริ่มลดลงได้ในปีนี้ มาอยู่ที่ 2.9% ท่ามกลางราคาพลังงานที่สูงและมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะหลัง เพราะฉะนั้นการกระตุ้นการบริโภคในช่วงนี้ อาจจะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในท้ายที่สุด
- เงินงบประมาณของรัฐที่มีจำกัด หากใช้เงิน
560,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จะทำให้รัฐ เสียโอกาสที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และ สร้างศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ทั้งนี้การกระตุ้นการบริโภคในระยะสั้นๆ จะสร้างหนี้สาธารณะให้เป็นภาระคนรุ่นหลัง
- การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 560,000 ล้านบาท เป็นนโยบายที่เลื่อนลอย เป็นการคาดหวังที่เกินจริง เนื่องจากการใช้จ่ายของรัฐในลักษณะเงินโอนหรือแจกเงิน มีค่าต่ำกว่า 1 และต่ำกว่าตัวทวีคูณทางการคลัง สำหรับการใช้จ่ายโดยตรงและการลงทุนภาครัฐ
- ประเทศไทยอยู่ในวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นมานาน การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะยิ่งทำให้ไทย
เสียค่าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก เพราะก่อนหน้านี้เงินเฟ้อสูงขึ้น การก่อหนี้จำนวนมาก ทั้ง ออกพันธบัตรหรือกู้เงินจากรัฐวิสาหกิจ หรือ สถาบันการเงิน ทำให้ประเทศต้องเผชิญกับปัญหาดอกเบี้ย หนี้สาธารณะของรัฐอยู่ที่ประมาณ 10.1 ล้านล้านบาท หรือ 61.6% ของจีดีพี เป็นภาระที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง เมื่อต้องจ่ายคืนหรือกู้ใหม่ ย่อมมีผลต่อเงินงบประมาณของภาครัฐในแต่ละปี
- นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท สวนทางกับความเป็นจริงของโลกปัจจุบัน หลังจากทั่วโลกเผชิญกับสภาวะโรคระบาดและเศรษฐกิจถดถอย ในระยะ 2-3 ปีหลังมานี้ หลายประเทศพยายามลดการขาดดุลภาครัฐและหนี้สาธารณะลง เพื่อสร้างที่ว่างทางการคลัง เพื่อรองรับวิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต แต่ นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำให้ภาครัฐต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมาก ในขณะที่ประเทศไทยมีรายรับจากภาษีเพียง 13.7% ของจีดีพี ถือว่าต่ำมากๆ
- การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ทุกคนที่อายุเกิน 16 ปี เป็นนโยบายที่สร้างความไม่เป็นธรรม เพราะ เศรษฐี มหาเศรษฐี ที่อายุมากกว่า 16 ปี ล้วนได้รับเงินจากโครงการนี้ ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น
- ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงวัย การเตรียมตัวทางการคลังเป็นสิ่งจำเป็น ภาระการใช้จ่ายด้านสวัสดิการและสาธารสุขจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้บริหารประเทศที่มองการณ์ไกลจึงควรใช้งบประมาณให้คุ้มค่า และรักษาวินัยและเสถียรภาพทางการคลังอย่างเคร่งครัด
ด้วยเหตุผลทั้งหมดต่างๆ ข้างต้น นักวิชาการ และคณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท แก่ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
เพราะประโยชน์ที่ประเทศจะได้นั้นน้อยกว่าต้นทุนที่เสียไปและสร้างบรรทัดฐานให้มีการแจกเงินเพื่อกระตุ้นให้คนจับจ่ายใช้สอยระยะสั้นๆ โดยไม่คำนึงถึงวินัยและเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว และควรทำแบบเฉพาะเจาะจง เช่น ผู้มีรายได้น้อย ไม่เหวี่ยงแหคลอบคลุมคนทุกกลุ่ม