Connect with us

Sports

เบิร์นลี่ย์ เฮี้ยน เปิดบ้านพลิกกลับมาเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไป 3-2 หลังจากแพ้มา 4 นัดรวดจาก 5 เกมส์หลังสุด

Published

on

ส่วนเอฟเวอร์ตันอาการน่าเป็นห่วง แพ้มา 4 จาก 5 นัดล่าสุด คะแนนอยู่ห่างจากโซนตกชั้นแค่แต้มเดียว

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพุธที่ 6 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นเกมส์นัดตกค้างระหว่าง
ทีมท้ายตาราง เจ้าบ้าน เดอะคลาเร็ตส์ เบิร์นลี่ย์ เปิดบ้านสนามเทิร์ฟ มัวร์ ต้อนรับการมาเยือนของ
ทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ทีมดังจาก ลุ่มน้ำเมอร์ซี่ย์ ซึ่งปัจจุบัน อันดับรูดลงมาอยู่ท้ายตาราง

เบิร์นลี่ย์ ทีมรองบ๊วย ส่งทีมชุดใหญ่ลงทำศึกในระบบ 4-4-2 มี นิค โป๊ป ยืนเฝ้าเสา แผงหลังมี
คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์,เจมส์ ทาร์คอฟสกี้,นาธาน คอลลินส์และชาร์ลี เทย์เลอร์ แผงกองกลางมี
แอรอน เลนน่อน,แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด,จอช บราวน์ฮิลล์,แม็กซ์แวล คอร์เน่ต์ ส่วนคู่กองหน้าเป็น
เจย์ โรดริเกซและเว้าท์ เว็กฮอร์สท์ หัวหอก ดีกรีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ร่วมกันล่าประตูคู่แข่ง

ส่วนทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ยังต้องดิ้นรนหนีตกชั้นต่อไป แถมอาการน่าเป็นห่วง จากเกมส์ 6 นัดล่าสุด
เอาชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น นัดนี้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่งทีมชุดใหญ่ลงสนามในระบบ 4-3-3
มีจอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนเฝ้าเสา แผงหลัง 4 คนมี เบน ก็อดฟรี่ย์,จาร์แรด แบรนธ์เวท,เมสัน โฮลเกท
และจอนโจ เคนนี่ แผงกองกลางมี อับดุลลาย ดูคูเร่,อเล็กซ์ อิโวบี้,วิตาลี่ มิคโคเลนโก้
ส่วนสามประสานในแนวรุกมี แอนโธนี่ กอร์ดอน,โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวินและ ริชาร์ลิซอน

เริ่มเกมส์ในครึ่งแรก 10 นาทีแรกของเกมส์ เจ้าถิ่นครองบอลเดินหน้าบุกเข้าใส่ มีโอกาสได้สับไกเป็นระยะๆ
นาทีที่ 12 เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุมจากทางขวา แม็กซ์แวล คอร์เน่ต์ เปิดบอลยาวโค้งมาถึงเสาสอง
นาธาน คอลลินส์ กระโดดใช้เท้าขวาแปบอล ยิงสวนทางไปเข้าประตูที่เสาแรก เบิร์นลี่ย์ออกนำก่อน 1-0

6 นาทีถัดมา ทีมเยือนครองบอลบุกเข้าไปในแดนเจ้าถิ่น แอนโธนี่ กอร์ดอน เบียดแย่งบอลกับ
แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด แล้วขาขัดกันล้มลงในเขตโทษ กรรมการชี้ให้เป็นจุดโทษหลังจากดูภาพจาก VAR
ริชาร์ลิซอน รับหน้าที่สังหารจุดโทษ โดยแปบอลเข้ามุมขวาของประตู อย่างเยือกเย็น
ช่วยให้เอฟเวอร์ตัน ไล่ตามมาตีเสมอเป็น 1-1

เมื่อตีเสมอได้ ทีมเยือนก็เปิดฉากทำเกมส์บุกกดดันเข้าใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 34 จอนโจ เคนนี่
วางบอลข้ามมาทางซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ ริชาร์ลิซอน รับบอลแล้วจ่ายต่อไปให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน
wfhสับไกยิงเต็มข้อ แต่บอลไปติดแนวรับของทีมเจ้าถิ่น

ท้ายครึ่งแรก ในนาทีที่ 41 วิตาลี่ มิคโคเลนโก้ เลี้ยงบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วโดน แอรอน เลนน่อน
เตะข้อเท้าล้มลงในเขตโทษ กรรมการในสนาม วิ่งไปดูภาพจาก VAR แล้วชี้ให้จุดโทษของเอฟเวอร์ตัน
ริชาร์ลิซอน คนเดิมรับหน้าที่สังหารจุดโทษ ซึ่งก็ไม่พลาดหมดครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำเบิร์นลี่ย์อยู่ 1-2  

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเปิดฉากเดินหน้าบุก หวังทวงประตูตีเสมอให้เร็วที่สุด นาทีที่ 51 เวสต์วู้ด
ได้สับไกยิงจากระยะ 12 หลา แต่บอลโด่งข้ามคานออกหลังไปไกล จังหวะถัดมาในนาทีที่ 52 ทีมเยือน
ได้สวนกลับ แอนโธนี่ กอร์ดอน จ่ายบอลทะลุขึ้นมาให้ ริชาร์ลิซอน เลี้ยงพาบอลเข้าไปในเขตโทษ
ก่อนจะสับไกยิงด้วยเท้าซ้าย แต่นิค โป๊ป ออกมาปิดมุม ทำให้บอลหลุดกรอบออกหลังไป

นาทีที่ 57 ชาร์ลี เทย์เลอร์ เลี้ยงบอลเลาะริมเส้นฝั่งซ้ายไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนจะจ่ายหักข้อตวัดส่งบอล
เข้ามาหน้าปากประตู เจย์ โรดริเกซ วิ่งเข้ามาชาร์จ แปบอลเข้าไปตุงตาข่าย เบิร์นลี่ย์ ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 

ถัดมานาทีที่ 62 ทีมเยือนได้โอกาส จากจังหวะที่ อับดุลลาย ดูคูเร่ ได้จังหวะส่องจากระยะไกลแต่ลื่นล้ม
ในจังหวะง้างเท้ายิง บอลกระดอนมาทางขวา จอนโจ เคนนี่ วิ่งเติมมาเก็บบอลได้ที่ริมหลัง แล้วเปิดบอล
เข้ามาหน้าประตูของเบิร์นลี่ย์ เนธาน คอลลินส์ พยายามสกัด แต่บอลไปเข้าทาง ริชาร์ลิซอน กระโดดยิง
ด้วยท่าจักรยานอากาศแต่บอลไม่แรงมาก นิค โป๊ป ล้มตัวปัดบอลทิ้งออกหลัง ป้องกันเอาไว้ได้อีกครั้ง

ช่วงท้ายเกมส์นาทีที่ 85 ชาร์ลี เทย์เลอร์ เปิดบอลจากลูกทุ่มขึ้นหน้ามา เบน ก็อดฟรี่ย์ เตะสกัดพลาดบอล
กำลังจะออกเส้นหลัง มาเตจ์ วีด้า วิ่งตามมาเก็บบอล แล้วจ้่ยเข้ากลางมาที่หน้าปากประตู
แม็กซ์แวล คอร์เน่ต์ ได้สับไกยิงเต็มข้อ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูปิดท้ายของเกมส์นี้

เมื่อจบเกมส์ เบิร์นลี่ย์ เปิดบ้านพลิกกลับมาเอาชนะเอฟเวอร์ตัน ได้ 3-2 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ
ลงเตะ 29 นัดมี 24 คะแนน ยังรั้งอยูอันดับที่ 18 ของตารางงคะแนน ส่วน เอฟเวอร์ตัน
ลงเตะไป 29 นัด มีแค่ 25 คะแนน ห่างจากโซนตกชั้นแค่แต้มเดียว ต้องลุ้นกันต่อไป

ภาพจาก
Everton (@Everton) / Twitter
https://twitter.com/OfficialFPL
Burnley FC (@BurnleyOfficial) / Twitter
https://twitter.com/BBCSport

Continue Reading
Advertisement ad-02-doosoft.jpg
Advertisement QK6ZtN.png

Copyright © 2022 TOJO.NEWS

%d bloggers like this: