ไบรท์ตัน หวิดเจ๊ง เปิดบ้าน ไล่ตามตีเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1

ทีมเจ้านกนางนวล หวิดพ่ายคารัง เมื่อเปิดบ้านรับมือทีม นกอินทรีย์ โมเปย์ ยิงประตูได้
แต่กลายเป็นลูกทำฟาล์ว ก่อนที่คอเนอร์ กัลลาเกอร์ จะมายิงยิงประตูขึ้นนำให้ทีมเยือน
ท้ายเกมส์ทีมเยือนก็พลาดท่า ถูกเจ้าถิ่นไล่ตามตีเสมอได้สำเร็จ…

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงสนามเตะกันกลางดึกของคืนวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
ทีม”เจ้านกนางนวล” ไบรท์ตัน แอนด์ ฮอฟ อัลเบี้ยน เปิดบ้าน สนามเอเม็กซ์ สเตเดี้ยม
ต้อนรับการมาเยือนของทีม”ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ
เจ้าถิ่นไบรท์ตัน ลงสนามโดยเล่นในระบบ 4-4-2 มี เลอันโดร ทรอสซาร์ด กับ นีล โมเปย์เป็นคู่กองหน้า
ส่วน พาเลซ ทีมเยือน ลงเล่นในระบบ 4-3-3 ส่งออดซอน เอดูอาร์ด, เอเบเรชี เอซี, ไมเคิล โอลิเซ่
เป็นสามประสานทำเกมส์รุกในแดนหน้า

เริ่มต้นเกม์ในครึ่งแรก เจ้าถิ่นเปิดฉากทำเกมส์บุกกดดันตั้งแต่ต้นเกมส์ เล่นกันมาถึงนาทีที่ 10
โจเอล วอร์ด กองหลังพาเลซ โหม่งบอลพลาดมาร์ค คูคูเรลญ่า ตัดบอลได้เลอันโดร ทรอสซาร์
วิ่งมารับบอลเลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษแล้วสับไกยิงแจ็ค บัตแลนด์ นายทวารทีมเยือนใช้ขาป้องกันไว้ได้

เจ้าถิ่นยังเดินหน้าบุกแหลก นาทีที่ 37 จังหวะชุลมุนหน้าประตูวิล ฮิวจ์ส ไปทำฟาล์วโจเอล เวลท์แมน
กรรมการเช็คภาพจาก VAR แล้วให้เป็นจุดโทษปาสกาล กรอสส์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษ แต่ยิงไม่ดี
แจ็ค บัตแลนด์ นายทวารทีมเยือนใช้ขาสกัดบอลเอาไว้ได้ ก่อนที่กองหลังจะมาเคลียร์บอลทิ้ง

นาทีที่ 39 ปาสคาล กรอสส์เปิดบอลเตะมุมเข้ามาหน้าประตูแดน เบิร์น ขึ้นโหม่งบอลตกลงฟื้น บัตแลนด์
นายทวารทีมเยือนกำลังจะคว้าบอลแต่นีล โมเปย์ เข้ามาชาร์จแล้วเตะบอลเข้าประตูไป แต่เมื่อกรรมการ
เช็คภาพจาก VAR แล้วตัดสินให้เป็นการทำฟาวล์ของ โมเปย์ ทำให้จบครึ่งแรกด้วยผลเสมอกันอยู่ 0-0

เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นยังเดินหน้าบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 47 ปาสคาล กรอสส์
วิ่งตามไปเก็บบอลแล้วเปิดกลับมาในเขตโทษญาคุบ โมเดอร์ วิ่งมายิงตามน้ำ บอลลอยไปไต่คาน
ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย นาทีถัดมา ทีมเยือนได้โอกาสจากจังหวะที่คอเนอร์ กัลลาเกอร์
ปาดบอลเลียดมาหน้าประตูออดซอน เอดูอาร์ด สไลด์มาจิ้มบอล แต่โรเบิร์ต ซานเชซ รับเอาไว้ได้
นาทีที่ 50 เจ้าถิ่นได้บอลบุกขึ้นมาอีกครั้งอเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ชิฟบอลข้ามแนวรับทีมเยือน
มาถึงญาคุบ โมเดอร์ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับนายทวารทีมเยือน แต่ยิงไม่ดีพอบัตแลนด์ ปัดบอลทิ้งได้อีก

นาทีที่ 68 ทีมเยือน พาเลซ ลำเลียงบอลบุกขึ้นมาในแดนเจ้าถิ่นวิล ฮิวก์จ่าบอลมาให้โจเอล วอร์ด
จ่ายบอลยัดเข้าไปในกรอบ 6 หลา เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ จับบอลแล้วกระฉอกเกือบออกหลัง ชลุปป์ วิ่ง
ตามมาเก็บบอลก่อนจะตวัดจ่ายบอลย้อนกลับออกมาเข้าทางคอเนอร์ กัลลาเกอร์ จับบอลลงฟื้น
หนึ่งจังหวะ แล้วดีดบอลพุ่งเข้าประตูไป ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ขึ้นนำ 0-1 นาทีที่ 69

เมื่อโดนขึ้นนำ เจ้าถิ่นก็โหมบุกหวังทวงประตูตีเสมอ เล่นกันมาจนถึงนาทีที่ 86 เจ้าถิ่นได้ลูกตั้งเตะ
แล้วเปิดบอลเข้าไปหน้าประตู แนวรับทีมเยือนโหม่งสกัดบอลมาเข้าทางมาร์ค คูคูเรลญ่า
จ่ายบอลต่อมาให้นีล โมเปย์ ลากบอลไปถึงริมกรอบ 6 หลา ก่อนจะสับไกยิง บอลมาติดปลายเท้า
โญอาคิม แอนเดอร์เซ่น เปลี่ยนทางลอดขานายทวารกลายเป็นการสกัดเข้าประตูตัวเองไป
เจ่ถิ่นไล่ตามมาตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 87

เมื่อเล่นกันจนหมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ไบรท์ตัน เปิดบ้านไล่ตามตีเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1
แบ่งกันไปทีมละแต้ม ไบรท์ตัน ลงเตะไป 20 นัดมี 28 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 8 ในตาราง
ส่วนคริสตัล พาเลซ ลงเตะไปแล้ว 21 นัด มี 24 แต้ม ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 11 ของตารางพรีเมียร์ลีก

ภาพจาก
Premier League (@premierleague) / Twitter
Crystal Palace F.C. (@CPFC) / Twitter
Brighton & Hove Albion (@OfficialBHAFC) / Twitter