เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ
ปากีสถานซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอินเดียจึงถูกอังกฤษแยกประเทศออกมาเป็นประเทศเอกราช
เนื่องจากพลเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
ปากีสถาน เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับอินเดียมายาวนานกว่า 5,000 ปี
อาณาเขตของประเทศปากีสถานในปัจจุบันเคยอยู่ในส่วนหนึ่งของอินเดียโบราณหรือชมพูทวีป
ซึ่งเคยถูกปกครองโดยชาวอารยัน เปอร์เซีย มาซิโดเนีย กลุ่มชนจากเอเชียกลาง อาณาจักรออตโตมัน
ชาวอาหรับ และจักรวรรดิ์โมกุลตามลำดับ
จนถึงช่วงคริสตศตวรรษที่ 17 จักรวรรดิอังกฤษ ได้ขยายอิทธิพลมายังอินเดีย
และแผ่เข้ามายังดินแดนส่วนต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้แทนที่จักรวรรดิ์โมกุลที่เสื่อมอำนาจลง
ซึ่งต่อมา อังกฤษสามารถปกครองอนุทวีปเอเชียใต้ ได้โดยสมบูรณ์
อังกฤษเข้าไปมีอิทธิพลในอินเดียผ่านบริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) บริษัทการค้า
ซึ่งแต่เดิมเดินทางมาที่อินเดียเพื่อหาแสวงเครื่องเทศไปค้าขาย ต่อมาก็ค่อยๆขยายเข้าไปมีอิทธิพล
ทางการทหารและการปกครอง ต่อมาเมื่อเกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่ในปี 1857 กองทัพอังกฤษ
ได้ใช้กำลังเข้าปราบปรามก่อนประกาศใช้กฎหมายก่อตั้งรัฐบาลอินเดีย (Government of India Act)
ซึ่งเป็นการถ่ายโอนอำนาจการปกครองอินเดีย จากบริษัทอินเดียตะวันออก
มาขึ้นอยู่กับ สหราชอาณาจักร กลายเป็นส่วนนึงของจักรวรรดิอังกฤษ ในเดือนสิงหาคม 1858
แต่การปกครองโดยกดขี่ชาวพื้นเมืองของอังกฤษ ทำให้เกิดการต่อต้านอย่างต่อเนื่อง ปี 1919
หลังเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ทหารอินเดียนับล้านเข้าร่วมสงคราม
ในกองทัพจักรวรรดิอังกฤษ ด้วยหวังว่า พวกเขาจะได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้นหลังสงคราม
ในยุคอาณานิคมนั้น ปากีสถานถือเป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย และชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในอินเดีย
ก็มีแนวความคิดที่จะสถาปนาดินแดนอิสระของชาวมุสลิม
ระหว่างปี 2480-2482 (ค.ศ. 1937-1939) กลุ่มชาวมุสลิมรวมตัวกันในชื่อ All-India Muslim League
และผลักดันข้อเสนอดังกล่าว จนฝ่ายปกครองเห็นชอบกับข้อมติที่เรียกกันว่า Pakistan Resolution
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2483 (ค.ศ. 1940) จึงเกิดดินแดนที่มีชาวมุสลิมเป็นชนส่วนใหญ่
ขึ้นในอนุทวีปเอเชียใต้ ในนามดินแดน ปากีสถาน
ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง อินเดียได้เรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ
จนประสบความสำเร็จในวันที่ 14 สิงหาคม 2490 (ค.ศ. 1947) และทำให้ ปากีสถาน
มีสถานะเป็นประเทศอีกประเทศหนึ่งแยกตัวจากอินเดีย
โดยแบ่งดินแดนปากีสถานในขณะนั้นเป็น 2 ส่วน คือ ปากีสถานตะวันตกและปากีสถานตะวันออก
( ปัจจุบันคือประเทศบังกลาเทศ ) โดยมีควาอิด-อาซาม มูฮัหมัด อาลี จินนาห์ เป็นผู้นำประเทศคนแรก
ในตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ (ขณะนั้นยังไม่มีตำแหน่งประธานาธิบดี)
เนื่องจากเป็นบุคคลที่ชาวปากีสถานยกย่อง ให้เป็นบิดาของประเทศ (Father of the Nation)
ต่อมาในปี 2514 (ค.ศ. 1971) ปากีสถานตะวันออกได้แยกตัวเป็นประเทศบังกลาเทศในปัจจุบัน
ปากีสถาน แปลว่า ดินแดนแห่งชนบริสุทธิ์ มีชื่อเป็นทางการว่า สาธาณรัฐอิสลามปากีสถาน
(อิสลามี จัมฮูริยะ อิ ปากีสถาน) ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้ ทิศเหนือติดกับจีน ทิศตะวันตก
ติดกับอัฟกานิสถานและอิหร่าน ทิศตะวันออกติดกับอินเดีย และทิศใต้ติดกับทะเลอาหรับ
ด้วยแต่ละประเทศที่อยู่ขนาบข้างปากีสถานมีพื้นที่ขนาดใหญ่ พรมแดนแต่ละด้าน
จึงมีระยะทางยาวไกลมาก
โดยด้านที่ติดกับอัฟกานิสถาน ยาว 2,430 กิโลเมตร, ด้านที่ติดกับจีน 580 กิโลเมตร,
ด้านที่ติดกับอินเดีย ยาว 2,240 กิโลเมตรและด้านที่ติดกับอิหร่าน ยาว 909 กิโลเมตร
ส่วนที่ติดกับทะเลอาหรับยาว 1,046 กิโลเมตร
ปากีสถานมีพื้นที่ 8 แสนตารางกิโลเมตรเศษ ( ใหญ่เป็นอันดับที่ 34 ของโลก ) มีส่วนที่เป็นพื้นน้ำร้อยละ 3
ลักษณะภูมิประเทศของปากีสถาน จะเป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำทางภาคตะวันออก ภูเขาทางภาคเหนือ
และตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ราบสูงบาลูจิสถานทางตะวันตก และทะเลทรายทางตอนใต้ เป็นพื้นที่มีระดับความสูง
ส่วนที่ต่ำที่สุด คือ มหาสมุทรอาหรับ ส่วนที่สูงที่สุด คือ K2 (เมาท์ ก็อดวิน ออสติน Mt.Godwin Austin )
ความสูง 8,611 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ประชากรของปากีสถานมีประมาณ 163(ปี2552) .เป็นเชื้อชาติปัญจาบ ร้อยละ 44 ชาวปาทาน ร้อยละ 15
ชาวซินด์ ร้อยละ 14 เซไรยคี ร้อยละ 10 มูฮาเจียร์/อูรดู (ชาวมุสลิมที่อพยพมาจากอินเดีย) ร้อยละ 8
บาลูชี ร้อยละ 3.6 และอื่นๆ ร้อยละ 3.5 ใช้ภาษาอูรดู และ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการ
เพื่อการติดต่อการค้า และสื่อสาร แต่อย่างไรก็ยังถือว่า ภาษาอูรดู เป็นภาษาประจำชาติ
นอกเหนือจากนี้ก็มีภาษาท้องถิ่นอีกหลายภาษา ที่ใช้กันในพื้นที่ต่าง ๆ
เช่นภาษาปัญจาบี ซินดิ ปาทาน และบาลูชี
ชาวปากีสถานนับถือศาสนาอิสลามเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์โดยเป็นมุสลิมนิกายสุหนี่มากกว่าครึ่ง
รองลงมาเป็นชีอะห์ ศาสนาอื่น ๆ อย่างฮินดู, คริสต์และซิกห์ มีจำนวนน้อย
เมืองหลวงของประเทศปากีสถาน คือ กรุงอิสลามาบัด และมีเมืองสำคัญ ๆ อื่น ๆ ได้แก่ การาจี
ซึ่งเป็นเมืองท่าและศูนย์กลางเศรษฐกิจ ทางใต้ของประเทศ
เมืองละฮอร์เป็นเมืองศูนย์กลางของอุตสาหกรรมทางเหนือของประเทศ
ข้อมูลอ้างอิงจาก
You must be logged in to post a comment Login