18 ธันวาคม 2560 ครบรอบการสูญเสียของคนวงการบันเทิงเกาหลีใต้ “คิม จงฮยอน วง SHINee” ที่ได้ทุกข์ทรมานกับโรคซึมเศร้าและตัดสินใจทิ้งชีวิตตัวเอง ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับคนใกล้ชิดในวงการและแฟนคลับเป็นอย่างมาก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นภายบนโลก ทำให้มีดารา นักร้อง รวมถึงไอดอลหลายคนที่ป่วย และเสียชีวิตจากโรคซึมเศร้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลสำรวจ ปี 2563 พบว่า คนไทยป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากว่า 1.5 ล้านคน และมีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จถึง 4,000 คนต่อปี ซึ่งโรคซึมเศร้าสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ และใกล้ตัวกว่าที่คิด
โรคซึมเศร้า (Depression disorder) เกิดจากการที่สารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติจึงส่งผลต่อความแปรปรวนทางความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม และนำไปสู่อาการ สามารถรักษาให้หายได้ โดยการพบแพทย์ หากรู้ตัวว่าตัวเองเข้าข่ายโรคซึมเศร้า ควรรีบไปพบจิตแพทย์เฉพาะทางเพื่อเข้ารับการรักษา ด้วยการบำบัด หรือยา
วันนี้ทีมข่าวโตโจ้นิวส์ ได้รวบรวมศิลปิน ดารา ที่ออกมายอมรับว่าตนเองเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังต่อสู้กับโรคซึมเศร้าอยู่ให้ผ่านไปได้เช่นเดียวกัน
โอ๊ต ปราโมทย์
แม้จะดูเป็นคนตลก สนุกสนาน เฮฮา แต่เนื่องจากการทำงานอย่างไม่ได้หยุดพัก บางวันก็หลายงานต่อวัน ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพมีอาการแพนิคและซึมเศร้าอย่างรุนแรง ร้องไห้ทุกวัน บ้างก็หายใจไม่ออก หัวใจเต้นแรง มือชา เท้าชา ปากชา จนต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อรักษาโดยการใช้ยา เพื่อปรับสารเคมีในสมอง
แต่โอ๊ตก็ได้กล่าวว่า สาเหตุอาจจะมาจากการที่ตัวเองไม่มีคนคอยปรับทุกข์ ระบายความรู้สึกด้วยได้ แล้วต้องเก็บอะไรไว้คนเดียว แต่เขาก็ไม่อยากให้มองว่านี่เป็นโรคที่ใช้เรียกร้องความสนใจ เพราะโรคนี้เป็นโรคที่ต้องรักษาด้วยตัวเอง และจะหายได้ด้วยตัวเอง
ทราย เจริญปุระ
อาการซึมเศร้าของทราย เจริญปุระ เกิดขึ้นครั้งแรกจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เบรคแตก จนทำให้เป็นโรคซึมเศร้าประเภทสะเทือนใจหลังอุบัติเหตุ (PTSD : Posttraumatic Stress Disorder) ที่ทำให้เอาแต่ฝันถึงแต่เหตุการณ์เดิมๆ เรื่อยๆ จนต้องพบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษา แต่หลังจากที่เธอเว้นการกินยาไปหนึ่งปี ทำให้เธอกลับมาเป็นอีกครั้งในระดับ MMD (Major Depressive Disorder) ซึ่งเกิดจากความเครียดที่ต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเช่นเดียวกัน ซึ่งครั้งนี้ทำให้เธอป่วยจนถึงขั้นเสียการเสียงานชีวิตจมจนไม่สามารถหาทางออกได้
ซึ่งเธอหายได้จากการเริ่มรักษาตัวเอง มีระเบียบวินัยในตัวเอง กินยาตลอด และจัดการตัวเองได้ดีและพยายามคิดถึงเรื่องที่ทำแล้วชีวิตมีความสุขจนถึงทุกวันนี้
ส้ม มารี
สาวเสียงหวาน ส้ม มารี ออกมาบอกว่าเธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานถึง 3 ปี และเคยคิดฆ่าตัวตายในหลายๆ รูปแบบ ตอนนี้แม้ว่าจะดีขึ้นแล้วแต่อาการก็ยังไม่หายขาด ต้องพบแพทย์อยู่เรื่อยๆ
โดยวิธีของเธอคือพยายามอย่าอยู่คนเดียวในที่มืดเพราะจะทำให้ความคิดเตลิดควบคุมได้ยาก ให้พยายามอยู่กับครอบครัว เพื่อน หรือคนที่รัก
หวาย ปัญญริสา
แม้ว่าจะดูเป็นสาวมั่นใจ แต่หวาย ปัญญริสา หรือ หวาย กามิกาเซ นั้นเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน เนื่องจากโดนบูลลี่ที่โรงเรียน ตั้งแต่อายุ 14 จนทำให้เธอเก็บกดจนกลายเป็นซึมเศร้า และมีอาการแพนิคแอคแทค (อาการตื่นตกใจกลัวอย่างรุนแรง) มีอาการชัก หรือเป็นลม ในบางครั้ง
แต่เธอก็สามารถผ่านมาได้เพราะการได้พูดคุยและพยายามทำความเข้าใจกับคุณแม่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หาอะไรทำ และไม่คิดมาก อย่าอยู่กับตัวเองเยอะจนเกินไป ซึ่งปัจจุบันเธอยังคงต้องพบหมอ และทานยาอยู่
UrboyTJ
ทีเจ ได้เผยว่า ตัวเองเป็นโรคซึมเศร้ามา 4 ปีแล้ว และเคยคิดฆ่าตัวตายครั้งนึงจนต้องแอดมิทที่โรงพยาบาลและรับรู้ว่าครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว แต่ไม่ได้บอกให้ใครรู้ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขารู้สึกย่ำแย่ที่สุดเพราะไม่มีงาน รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทีเจบอกว่า สำหรับเขาแล้วโรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคที่ร้ายแรงพอๆ กับโรคมะเร็งหรือโรคอื่นๆ
หลังจากที่ได้เข้ารับการรักษากับจิตแพทย์แล้วก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นและเริ่มมองเห็นหนทางที่จะก้าวเดินต่อไป และเริ่มกลับมาทำเพลงใหม่อีกครั้ง แต่ก็ยังคงรักษาต่อไป และยังคงไม่สามารถรับมือกับกระแสด้านลบได้เท่าที่ควร ทำให้ต้องคอยเซฟตัวเอง หลีกเลี่ยงอะไรที่ไม่ใช่ที่ของเรา นอกจากนั้นยังมีน้องแมว ที่เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เขาสามารถมีความสุขขึ้นมาได้
ไมค์ พิรัชต์
อุปสรรคต่างๆในชีวิตที่ ไมค์ เจอ ก่อให้เกิดแรงกดดันและความกังวลจากสายตาของสังคม ทำให้หนุ่มไมค์ เกิดอาการของโรคซึมเศร้า
แต่ตอนนี้ ไมค์หายดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้ธรรมะช่วยรักษา และได้กำลังใจดีๆจากคนรอบตัว
แคทริยา อิงลิช
ใครจะรู้ว่า แคท ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานกว่า 10 ปี และต้องสู้กับสภาพจิตใจและความกดดันที่เกิดขึ้น จนคิดทุกอย่างไปในทางลบหมดเลย จนถึงขั้นว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ และมีครั้งนึงที่เอาหัวโขกเตียงเพื่อระบายความรู้สึก
แต่สิ่งที่ทำให้เธอสามารถดึงตัวเองกลับมาได้นั้นก็คือ ครอบครัว สติ รวมถึงการพบแพทย์ เพื่อให้ได้มีที่ระบาย ปรึกษา ซึ่งเธอเรียนรู้ว่าความเข้มแข็งของจิตใจ และสตินั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะมันอยู่ที่ตัวเรานั่นเอง
ทีมข่าวโตโจ้นิวส์ ขอเป็นกำลังใจเอาใจช่วยให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า สามารถก้าวข้ามผ่านวันเวลาเหล่านี้ได้ หากใครที่มีคนรู้จักเข้าข่ายหรือกำลังประสบกับโรคนี้อยู่ ควรแนะนำให้พบจิตแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาให้ไว้ที่สุด และการพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องแย่หรือเรื่องน่าอายแต่อย่างใด
และหากใครที่ไม่อยากจะปรึกษากับคนรู้จักหรือคนใกล้ตัว สามารถโทรเพื่อปรึกษาปัญหาซึมเศร้า และสุขภาพจิตได้ที่
1. สายด่วน 1323 เพื่อพูดคุยปรึกษากับนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาลวิชาชีพ
2. Depress we care โรงพยาบาลตำรวจ สายด่วน 081-932-0000
3. สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย โทร. 02-713-6793 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.
You must be logged in to post a comment Login