ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านการรัฐประหารของทหารเมียนมา หลายหมื่นคน นัดรวมตัวเดินขบวนประท้วงกันอีกครั้งในวันนี้ (22ก.พ.) แม้จะมีคำขู่จากรัฐบาลทหารว่าพร้อมที่จะใช้กำลังขั้นเด็ดขาดเพื่อควบคุมสถานการณ์ คำเตือนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังผู้ชุมนุมประท้วง 3 คน ถูกยิงเสียชีวิตจากการร่วมชุมนุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เกิดการชุมนุมประท้วงบนท้องถนนด้วยจำนวนผู้ชุมนุมที่คับคั่งนับตั้งแต่กองทัพเมียนมา ได้ทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. และควบคุมตัวอองซานซูจี ผู้นำทางการเมืองคนสำคัญ รวมถึงการรณรงค์ในแบบอารยะขัดขืนจากคนเมียนมาในหลายสาขาอาชีพ ที่แสดงออกเพื่อต่อต้านการรัฐประหาร โดยที่รัฐบาลทหารเมียนมาได้ส่งสัญญาณที่ส่อไปในทางที่ว่า กำลังหมดความอดทนต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
แต่อย่างไรก็ดี คำเตือนของรัฐบาลทหารไม่สามารถขัดขวางผู้ชุมนุมได้ ประชาชนหลายพันคนยังคงออกมารวมตัวกันในนครย่างกุ้งวันนี้
“วันนี้เราออกมาร่วมประท้วงและจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ถึงจะมีคำขู่เรื่องการปราบปรามขั้นเด็ดขาดก็ตาม” จ่อ จ่อ นักศึกษาอายุ 23 ปี กล่าว
รัฐบาลทหารเมียนมาได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยในย่างกุ้งมากขึ้น มีรถบรรทุกทหารและตำรวจแล่นไปมาบนท้องถนน และติดตั้งแผงกั้นฝูงชนในย่านสถานทูต
ที่กรุงเนปีดอ ประชาชนหลายพันคนยังมารวมตัวกัน หลายคนขี่รถจักรยานยนต์ออกมาร่วมชุมนุม นอกจากนี้แล้วยังมีการประท้วงกลุ่มใหญ่
เกิดขึ้นในเมืองมิตจีนาและทวาย
ธุรกิจหลายแห่งในย่างกุ้งและในเมืองใหญ่อื่นๆ ต้องปิดทำการในวันนี้
หลังมีการเรียกร้องให้หยุดงานครั้งใหญ่เพื่อแสดงการอารยะขัดขืน
นายพลทหารของเมียนมา จัดการกับการลุกฮือของประชาชนด้วยการ เพิ่มการใช้กำลังทหาร ตำรวจและการจับกุมกลุ่มแกนนำ ทหารและตำรวจใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา รถฉีดน้ำแรงดันสูง รวมถึงใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุมบางส่วน
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 2 คน หลังกองกำลังความมั่นคงยิงผู้ชุมนุมประท้วงในมัณฑะเลย์ คนที่ 3 เป็นชาย ถูกยิงเสียชีวิตในย่างกุ้ง
และก่อนหน้านี้ มีผู้ชุมนุมหญิงถูกยิงเข้าที่ศีรษะที่การชุมนุมประท้วงในกรุง
เนปีดอ กลายเป็นผู้เสียชีวิตคนแรกของการชุมนุมประท้วง และเธอได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหาร
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองระบุว่า นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร
เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมประชาชนทั่วไปแล้วถึง 640 คน และยังมีผู้ต้องสงสัยที่ตกเป็นเป้าหมายการจับกุม มีทั้งพนักงานการรถไฟ ข้าราชการ และพนักงานธนาคาร ที่ผละงานเข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐประหาร
นอกจากนี้รัฐบาลทหารยังควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในเวลากลางคืนอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมากล่าวหาสหประชาชาติและรัฐบาลประเทศต่างๆว่า
“แทรกแซงกิจการภายในของเมียนมาอย่างโจ่งแจ้ง”
“แม้จะเผชิญกับการชุมนุมประท้วงอย่างผิดกฎหมาย การยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบและความรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุดด้วยการใช้กำลังระดับเบาที่สุด เพื่อจัดการกับความไม่สงบ” กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาแถลง
รัฐบาลสหรัฐฯ แคนาดา และอังกฤษ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลทหารของเมียนมา โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐฯ ระบุว่า
“สหรัฐฯ จะยังดำเนินการอย่างหนักกับผู้ที่กระทำความรุนแรงต่อประชาชนของเมียนมา ซึ่งเรียกร้องการฟื้นฟูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของพวกเขาเอง” แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐฯ ระบุ
ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป จะพบหารือกันในเร็ววันนี้ เพื่ออนุมัติมาตรการคว่ำบาตรของพวกเขาต่อรัฐบาลทหารเมียนมา
You must be logged in to post a comment Login