หลังจากทรงกอบกู้เอกราชของกรุงศรีอยุธยาได้ในระยะเวลาเพียง ๗ เดือน พระเจ้าตากสิน
ทรงคิดที่จะปฏิสังขรณ์กรุงศรีอยุธยา ให้กลับคืนมาเป็นเมืองเป็นดังเดิม
แต่หลังจากตรวจสอบดูแล้วพบว่าสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น
ยากต่อการฟื้นฟู จึงทรงให้อพยพผู้คนและทรัพย์สินลงมาทางใต้
และตั้งราชธานีใหม่ขึ้นที่เมืองธนบุรี เรียกนามว่า “กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร”
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ พระบาทสมเด็จพระเอกาทศรุทรอิศวร
เสด็จพระบรมราชสมภพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๗ เมษายน ๒๒๗๗ ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงให้แก่พม่า หลังจากพระเจ้าตากสิน ทรงกอบกู้เอกราชกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ
พระองค์ทรงคิดที่จะปฏิสังขรณ์กรุงศรีอยุธยาให้กลับคืนมาเป็นเมืองดังเดิม แต่หลังจากสำรวจ
สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังกรุงแตก ก็พบว่ายากต่อการฟื้นฟูเมือง
จึงให้อพยพผู้คนและทรัพย์สิน ลงมาทางใต้ มาตั้งราชธานีใหม่ขึ้น ที่เมืองธนบุรี
เรียกนามว่า “กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร”
ภาพจาก “พระเจ้าตาก” ทรงแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ด้วยการค้าสำเภาจีน กำไรมากถึงร้อยละร้อย! (silpa-mag.com)
หลังจากสร้างพระราชวังใหม่ขึ้นบนฝั่งตะวันตก ของแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว
ทรงจัดการบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยในระดับนึง บรรดาแม่ทัพ นายกอง ขุนนาง
ข้าราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ตลอดทั้งสมณะพราหมณาจารย์และอาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย
จึงพร้อมกัน กราบบังคมทูล อัญเชิญขึ้นทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์
เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๓๑๐ โดยทรงมีพระนามว่า
“พระศรีสรรเพชร สมเด็จบรมธรรมิกราชาธิราชรามาธิบดี บรมจักรพรรดิศร บวรราชาบดินทร์
หริหรินทร์ธาดาธิบดี ศรีสุวิบูลย์ คุณรุจิตร
ฤทธิราเมศวร บรมธรรมิกราชเดโชชัย
พรหมเทพาดิเทพ
ตรีภูวนาธิเบศร์ โลกเชษฏวิสุทธิ์ มกุฏประเทศคตา มหาพุทธังกูร บรมนาถบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว”
ต่อมาภายหลัง สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงวินิจฉัยตามหลักฐานที่ปรากฏขึ้น
ในภายหลัง ระบุว่า พระนามที่แท้จริงของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีควรจะเป็น “สมเด็จพระเอกาทศรถ”
อันเป็นพระนามที่กษัตริย์ ตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมทรงใช้สืบต่อกันมา รวมถึงพระเจ้ากรุงธนบุรีด้วย
ดังที่ปรากฏพระราชโองการแต่งตั้งเจ้านครศรีธรรมราชเมื่อสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ทรงตรวจชำระแก้ไขพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา พระองค์ได้แก้ไขพระวินิจฉัยเดิม
และแก้พระนามของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีใหม่เป็น
“พระบาทสมเด็จ พระเอกาทศรถอิศวรบรมนาถบพิตร พระพุทธิเจ้าอยู่หัว”
ซึ่งมีความหมายว่า พระเจ้าแผ่นดิน ผู้เป็นใหญ่ ผู้ครอบครองราชรถทั้งสิบเอ็ดรถ ด้วยเหตุนี้
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงควรมีพระนามทางการตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า
“สมเด็จพระเอกาทศรุทรอิศวร”
นับเป็นพระองค์ที่ ๖ ลำดับถัดจากพระสมเด็จพระเอกาทศรุกทรอิศวร
โดยพระองค์ที่ ๕ คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ข้อมูลจาก
โบราณนานมา | Facebook
You must be logged in to post a comment Login